“คลัง”ส่งมอบที่ดินราชพัสดุบางละมุง 649 ไร่ หนุน พม.พัฒนาเมืองสร้างสุขต้นแบบอาเซียน

“คลัง”มอบที่ราชพัสดุบางละมุง ส่งต่อ พม. ขับเคลื่อนต้นแบบ “เมืองสร้างสุข” กว่า 649 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 267 รายการ ดันเป็นฮับด้านการยกระดับสวัสดิการพัฒนาสังคมในระดับอาเซียน พร้อมหนุนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อีอีซี   

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.219 (บางส่วน) ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ว่า วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2564) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังได้ส่งมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.219 (บางส่วน) ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ประมาณ 649-0-72 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 267 รายการ ให้กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และอบรมด้านสวัสดิการสังคมในระดับอาเซียน และศูนย์ที่พักผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ   

ทั้งนี้การนำพื้นที่ราชพัสดุมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในครั้งนี้ ถือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล มอบให้ พม.ดำเนินโครงการพัฒนาให้เป็นไปตามแผนในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภายใต้เขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์การดำเนินงานด้านอาเซียน โดยการขับเคลื่อนแผนงานประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สูงวัยที่เพิ่มขึ้น 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ ดำเนินการนำที่ดินราชพัสดุที่ส่งมอบคืนไปใช้พัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุดเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นการมอบที่ราชพัสดุให้กับ พม. เป็นไปตามแผนงานหลักโดยการนำไปใช้พัฒนาให้เป็นพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” ที่พร้อมให้บริการกับประชาชน 

สำหรับการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว แบ่งออกเป็นพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ต่างๆ ประกอบด้วย1.สำหรับให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายแบบครบวงจร (Center Club House) อาทิ ศูนย์ให้บริการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอาชีพ พื้นที่ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ 2. ศูนย์บริการของหน่วยงาน พม.ในพื้นที่ เพื่อให้บริการด้านสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง และศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมด้านผู้สูงอายุจังหวัดชลบุรี เป็นต้น  3.พื้นที่สำหรับให้บริการในเชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การประชุม โรงแรม และCommunity Mall 4. ศูนย์ที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ซึ่งอยู่ในการครอบครองของกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นพื้นที่ติดชายทะเล เนื้อที่ 48 ไร่

ด้านนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวง พม. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “เมืองสร้างสุข” พม.มีการศึกษามาหลายปี มีแบบแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่1 เป็นหน่วยงานของกระทรวงที่มีอยู่แล้ว 9 หน่วยงาน โซนที่ 2 เป็นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ(Senior Complex)ประมาณ 2,000 ห้องโดยเดิมศึกษาไว้ว่า อาจแบ่งเป็น3โซนเล็ก ๆ 1.)สำหรับผู้สูงอายุยังช่วยตัวเองได้ 2.)กลุ่มผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยต้องรักษาพยาบาลและ3.)กลุ่มผู้สูงอายุเจ็บป่วยระยะสุดท้ายต้องดูแลพิเศษ และโซนที่ 3 ที่เป็นพื้นที่การพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรมเพื่อให้คนที่อยู่อาศัยได้ใช้บริการ

ส่วนราคาก่อสร้างอาจให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการก่อสร้าง(PPP)เพื่อให้ต้นทุนลดลงเหมาะสมและรองรับกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งพม.ดูแลอยู่ด้วย โดยจะมีการออกแบบเหมาะสมและเป็นไปวัตถุประสงค์ใหม่ของกรมธนารักษ์ที่ให้ใช้ที่พัสดุจากเดิมเพื่อบริการประชาชน มาเป็นเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้ด้วย

ทั้งนี้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งโครงการ คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี โดยต่อจากนี้จะเป็นขั้นตอนประกาศหาเอกชนมาร่วมลงทุน ซึ่งหากเอกชนมาร่วมได้เร็วก็จะเริ่มก่อสร้างได้เร็ว คาดว่าจะเป็นภายในปีนี้

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published.