บีโอไอ พร้อมจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” คู่ขนานไปกับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ชูไฮไลท์การจับคู่ธุรกิจ 8,000คู่ คาดเงินสะพัดกว่า 14,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน

“อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต” ของประเทศไทยได้รับการกล่าวถึงและยอมรับจากทั่วโลก ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ได้แก่ นโยบายส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ ECC แผนการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบรางและอากาศ เป็นต้น

ปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นล้วนส่งผลบวกต่อการขยายตัวด้านการส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นทั้งในส่วนของผู้บริโภคและการลงทุน โดยอุตสาหกรรมที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของการลงทุนในไทยคือ “อุตสาหกรรมสนับสนุน” หรือ “อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต” จากการเติบโตของการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่งาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” (SUBCON THAILAND 2019) เป็นงานประจำปี (ANNUAL EVENT) จัดคู่ขนานไปกับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” (INTERMACH – MTA 2019) ที่ผู้ประกอบการชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ เลือกที่จะปักหมุดให้เป็นงานสำคัญที่จะแสวงหาหุ้นส่วนในการทำธุรกิจเพื่อต่อยอดการผลิตได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพราะเป็นงานสำคัญที่สร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนให้กับผู้ประกอบการชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งยังเชื่อมโยงโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสู่การเป็นผู้รับช่วงการผลิตระดับภูมิภาคและระดับโลก

ดร.บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตไทยมีอัตราการเติบโตในทุกปีและมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ด้วยความสำคัญดังกล่าว บีโอไอ จึงมีแผนที่จะสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชาวไทยและบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่จากทั้งในและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่

การจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” มุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน” โดยมีกิจกรรมสนับสนุนมากมาย อาทิ งานแสดงนิทรรศการของอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย การจับคู่ธุรกิจโดยนำผู้ซื้อจากกว่า 400 บริษัท 30 ประเทศ โดยความร่วมมือของสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศมาพบกับผู้ผลิตภายในงาน การจัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ รวมทั้ง Buyers’ Village ที่จะนำผู้ซื้อชิ้นส่วนจากกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ หรือ New S-Curve กว่า 15 รายเข้าร่วมงาน อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี ออสเตรีย สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ จีน อินเดีย เป็นต้น
ดร.บงกช กล่าวอีกว่า ไฮไลท์การจัดงานปีนี้ได้จัดให้มีโซนพิเศษขึ้นคือ “โซน Innovation to Business” ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม เป็นการเชื่อมโยงหน่วยงานวิจัยและสถาบันการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมการผลิต การรวมกลุ่มของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์อนาคต อุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน ระบบราง และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เข้าร่วมแสดง นอกจากนี้ในส่วนของ สมาคมเครื่องจักรกลระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย ยังจะมีการนำเสนอ TARA Showcase นำเสนอการทำงานในไลน์การผลิตของระบบ Automation and Robotic รวมทั้งอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ซึ่งสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการสร้างประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ” (Medical Hub)

นอกจากนี้ ภายในงานจัดให้มี กิจกรรมสัมมนาส่งเสริมองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตทุกภาคส่วน กว่า 100 หัวข้อ อาทิ การลงทุนในตลาด CLMV, สัมมนาอากาศยานและศูนย์ซ่อมบำรุง Aerospace & MRO Summit Bangkok, Aerospace Manufacturing in Thailand : The View from OEMs, Aviation Industry in Thailand : Preparing for the future, สัมมนาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ (Medical Device Seminar), สัมมนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่-EV (สัมมนาภาษาญี่ปุ่น) ฯลฯ โดยทั้งหมดครอบคลุมต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

“สำหรับยอดการจับคู่ทางธุรกิจผ่านงาน “ซับคอน ไทยแลนด์” ในปีที่ผ่านมาสามารถจับคู่ทางธุรกิจได้ถึง 7,211 คู่ ก่อให้เกิดธุรกรรมกว่า 12,706 ล้านบาท โดยยอดการจับคู่นั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าที่จะจับคู่ธุรกิจกว่า 8,000 คู่ และคาดว่าจะเกิดธุรกรรมทางธุรกิจมูลค่าไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดผู้ซื้อจากอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้าร่วมเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินชั้นนำกว่า 40 ราย อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งมาจากการเชิญของสำนักงานบีโอไอทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้ง 14 แห่ง” ดร.บงกช กล่าวเสริม

ด้าน นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริหาร บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 36 โดยมีงาน “ซับคอน ไทยแลนด์” จัดคู่ขนานกันมาอย่างยาวนานต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 สำหรับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” เป็นงานแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เพื่ออุตสาหกรรมการผลิต รวบรวมเทคโนโลยีจาก 1,200 แบรนด์ จาก 45 ประเทศ โดยมีประเทศผู้ผลิตนำผลงานมาจัดแสดงในรูปแบบพาวิลเลียน จำนวน 5 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการสาธิตระบบการผลิตอัจฉริยะที่รวบรวมเทคโนโลยีการผลิตจากแบรนด์ชั้นนำในโซน (RO) Bots Hub มาทำงานร่วมกันด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อการประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับไลน์การผลิตและเครื่องจักรที่มีอยู่ต่างชนิดได้อย่างลงตัว โดย บริษัท โรบอท ซีสเท็ม จำกัด (ROBOTSYSTEM) บริษัทของผู้เชี่ยวชาญชาวไทย หรือเจ้าของฉายา “ไอรอนแมน เมืองไทย” ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ การวางระบบงานขัดอุปกรณ์เครื่องบินจากอุตสาหกรรมอากาศยาน ไลน์การชงกาแฟจากโรบอทอาร์ม ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการแพทย์และยานยนต์อนาคต เป็นต้น

งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ยังมี โซนโชว์เคสนวัตกรรมและระบบอัตโนมัติที่จะนำผลงานการออกแบบระบบซอฟต์แวร์จากบริษัทข้ามชาติ โดย บริษัท เจอแรงการ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผู้เข้าชมงานสามารถทดลองใช้งานโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับเครื่องควบคุมโดยอัตโนมัติ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เชื่อมโยงเครื่องจักรให้ทำงานร่วมกันผ่านระบบ IOT อาทิ การสร้างภาพการผลิตที่สามารถตรวจสอบการทำงานได้จริงแบบเรียลไทม์ ตลอดจนโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภทตั้งแต่อุตสาหกรรมขนาดย่อยจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกด้วย

เนื่องจากเป็นงานแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานแรกที่ยิ่งใหญ่ของปี ภายในงานจะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนร่วม 400 รายจากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วมจัดแสดง และคาดการณ์จะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 45,000 ราย ที่สำคัญมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคด้วยโปรแกรมจับคู่ธุรกิจสำหรับผู้แสดงสินค้าของงานซับคอน ไทยแลนด์ เพื่อเชื่อมโยงทางธุรกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยและชาวต่างชาติต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคต

สำหรับงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” เป็นงานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและงานจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะจัดร่วมกับ งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published.