นับเป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกและครั้งสำคัญสำหรับตลาดสแน็คที่ไม่ได้ดังแค่ในเมืองไทยแต่ไปถึงระดับโลก กับแบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ที่สามารถขึ้นแท่นติดท็อปเทรนด์โลกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์สุดพีคคนใหม่ล่าสุดอย่าง “EXO SEHUN” (เซฮุน หนึ่งในสมาชิกวงเอ็กโซ) จนทำให้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” เป็นที่จับตามองของบรรดาแฟนคลับชาวไทยและทั่วโลก รวมถึงการถูกพูดถึงในฐานะ “ของทานเล่น” (snacks) ที่สร้างปรากฏการณ์ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์เมืองไทย และไต่ขึ้นท็อปเทรนด์โลกในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในวันนี้เราจะไปถอดรหัสกลยุทธ์การตลาด “Idol Marketing” สู่การสร้าง Brand Awareness ผันเป็นยอดขาย และยังเป็น Top of Mind ครองใจกลุ่มเป้าหมายไปพร้อมกัน!
มองขาดตลาดไอดอล…“เถ้าแก่น้อย” ดึง “เซฮุน EXO” เป็นพรีเซนเตอร์
จับมือทะยานติดท็อปเทรนด์โลก
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลยุทธ์ ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง (Idol Marketing) ด้วยการดึงศิลปิน ดารามาเป็น พรีเซนเตอร์นั้นมีมาช้านาน แต่ก็ใช่ว่าจะทำปังหรือดังได้ทุกแบรนด์ ซึ่ง “เถ้าแก่น้อย” สามารถอ่านกลุ่มผู้บริโภคในตลาดได้ขาด โดยไม่ได้มองเฉพาะแค่ผู้บริโภคชาวไทยหรือเอเชีย หากแต่มองผู้บริโภคในระดับตลาดโลก โดย นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต จัดจำหน่ายและทำการตลาดสาหร่ายแปรรูปภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์เถ้าแก่น้อยว่า “1 ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเถ้าแก่น้อยคือกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ ซึ่งชอบความสนุก ชอบทำกิจกรรม ไปกันเป็นทีม เพราะฉะนั้นเราจึงเลือกกลยุทธ์ “Idol Marketing” มาคอยกระตุ้นและสร้างความคึกคักให้ตลาดสแน็คอยู่ตลอดเวลา โดยการใช้ กลยุทธ์ “Idol Marketing” ของแบรนด์เถ้าแก่น้อยจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายรู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชอบมากยิ่งขึ้น”
หลักการของกลยุทธ์ “ Idol Marketing นี้ แบรนด์เถ้าแก่น้อยจะใช้เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ไปยังไอดอล และ ไอดอลไปยังผู้บริโภค ซึ่งผู้ที่บริโภคสแน็คเถ้าแก่น้อยเป็นประจำจะรู้ว่าแบรนด์มีกิจกรรมที่ แอคทีฟให้ได้ติดตามและร่วมสนุกอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อมีการเปิดตัว เซฮุน แห่งวง EXO ขึ้นเป็นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด กลุ่มผู้บริโภคและตลาดจึงตื่นตัวอย่างมาก พร้อมรอคอยกิจกรรมที่เถ้าแก่น้อยและเซฮุน EXO จะมีร่วมกันตามมา
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการตัดสินใจเลือก “เซฮุน แห่งวง EXO” มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์สำคัญ และเป็น Key Man ของการพาเถ้าแก่น้อยติดท็อปเทรนด์โลกว่า “เราทำการบ้านเยอะมาก โจทย์ของเราคือ ต้องการไอดอลที่มีคาแรคเตอร์สนุกสนาน เฟรนด์ลี่ มีความเท่ห์และน่ารักอยู่ในคนๆ เดียวได้ เปรียบเหมือนตัวแทนแบรนด์ และที่สำคัญคือต้องเป็นขวัญใจชาวไทย และเป็นที่รู้จักในระดับโลก เหมือนกับที่เถ้าแก่น้อยเป็นแบรนด์สาหร่ายอันดับ 1 ของไทย และมีจำหน่ายมากกว่า 40 ประเทศ ทั่วโลก คำตอบมาลงตัวที่ เซฮุน ซึ่งมีผู้ติดตามมากว่า 17 ล้านคนทั่วโลก หนึ่งในสมาชิกวง EXO ที่เป็นศิลปินวงดนตรีสัญชาติเกาหลีระดับโลก มีแฟนคลับหลายสิบล้านคนทั่วโลก และถูกจัดอันดับให้เป็นที่สุดของกลุ่มคนผู้มีชื่อเสียงในการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี โดยนิตยสาร ฟอบส์ ในปี 2014 อีกด้วย จุดนี้ทำให้เรามั่นใจว่าการร่วมงานกับ เซฮุน ในฐานะพรีเซนเตอร์คนใหม่ของแบรนด์เถ้าแก่น้อย จะสร้างกระแสในเมืองไทยและในระดับโลกได้แน่นอน
อ่านเกมส์การวางหมาก “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” ของเถ้าแก่น้อย จาก F4 สู่ BNK48 และ เซฮุน EXO
เถ้าแก่น้อย ใช้กลยุทธ์ “Idol Marketing” เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ไปยังไอดอล และไอดอลไปยังผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้ ให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ เรียกว่าเป็นผู้นำเทรนด์ Idol Marketing เลยก็ว่าได้ การใช้ไอดอลแต่ละคนให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และเป้าหมายที่จะไป ได้ถูกวางหมากไว้อย่างแหลมคม
มีนาคม 2562 – ปูทางตลาดจีน : แคมเปญ ‘เถ้าแก่น้อย บิ๊กโรล’ เมื่อเดือน มีนาคม 2562 ได้ใช้ 4 หนุ่ม “F4” มาสร้างความคึกคักให้กับตลาดสาหร่ายไทยและจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพสูง เหมาะกับการดันยอดขายของ ‘เถ้าแก่น้อย บิ๊กโรล’ ซึ่งเป็น Core Product ของแบรนด์ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
เมษายน 2562 – แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ รุกตลาดสแน็กปลาหมึก : เถ้าแก่น้อยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในชื่อ ‘เถ้าแก่น้อย ทินเท็น’ ปลาหมึกไข่เค็มครั้งแรกในเมืองไทย ด้วยการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต คว้า 6 สาว BNK48 นั่งพรีเซ็นเตอร์ ภายใต้สโลแกน “หมึกเต็มแผ่น ไข่เค็มเต็มคำ” จับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่
กรกฎาคม 2562 – เซอร์ไพรส์ระดับโลก เถ้าแก่น้อยXเซฮุน : เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ “เซฮุน” (Sehun) หนึ่งในสมาชิกแห่งวง EXO เมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยมีกระแสตอบรับอย่ารวดเร็ว และแรงเกินคาด โดยหลังจากเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ 15 นาที พบว่า #TaokaenoiXSehun สามารถติดอันดับ 1 Top Trend Thai ใน“Twitter Trend” รวมถึงครองอันดับ 1-5 Twitter Trend ในต่างประเทศทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และยังติดอันดับ 2 ของโลกใน Worldwide Twitter Trend ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และบ่งบอกถึงกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของเซฮุน และเถ้าแก่น้อย
ทั้งหมดนี้นับเป็นการวางหมาก การใช้กลยุทธ์ Idol Marketing ของเถ้าแก่น้อย ซึ่งเป็นการทำการตลาดเชิงรุก การนำ ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกตัวจริง อย่าง เซฮุน แห่งวง EXO เป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงเป็นการสร้างสีสันในกลุ่มตลาด snack ภายใต้คอนเซ็ปต์ tasty , healthy , fun และยังเป็นการปลุกตลาดสาหร่ายให้กลับมาคึกคักมากขึ้น หลังจากที่ 12 เดือนย้อนหลัง ตลาดสาหร่ายมีอัตราเติบโตคงที่ประมาณ 1% ซึ่งในช่วงโค้งของไตรมาสสุดท้ายปี 2562 นี้ แบรนด์เถ้าแก่น้อยคาดว่า ตลาดน่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนกิจกรรมการตลาดที่ทางเถ้าแก่น้อยได้ตั้งใจทำเพื่อลูกค้าทุกคน
เมื่อกลยุทธ์ Idol Marketing ผันสู่ยอดขาย
เถ้าแก่น้อย ส่งไม้ต่อให้การตลาดแบบมีส่วนร่วม (Relevance Marketing)
สร้าง Customer Experience และความเชื่อใจในแบรนด์
ภาพใหญ่ที่เถ้าแก่น้อยต้องการมุ่งไปคือ การครองใจผู้บริโภคในระยะยาว การใช้ idol marketing เขย่าตลาดสาหร่ายมูลค่า 3,000 ล้าน ซึ่งเถ้าแก่น้อยถือเป็นเบอร์ 1 ครองส่วนแบ่ง 70% ภายหลังจากการเปิดตัวเซฮุนเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเถ้าแก่น้อยจนได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงทั่วโลก ทั้งการสอบถามถึงตัวสินค้า และกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างแบรนด์เถ้าแก่น้อยและเซฮุน ทำให้เถ้าแก่น้อยวางแผนต่อยอดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเถ้าแก่น้อยได้จัดงานเปิดตัว TAOKAENOI X SEHUN First in BANGKOK 2019 หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ #ยิ่งแชร์ยิ่งได้ใจ เพื่อตอกย้ำความเป็นสแน็ค ขนมที่สามารถแบ่งปันความสุขได้ทุกโมเม้นต์ และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สร้างปรากฎการณ์แฮชแทก #TaokaenoiXSEHUN ติดท็อปเทรนด์ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่ง เซฮุน ได้ให้สัมภาษณ์ภายในงานเปิดตัวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์เถ้าแก่น้อย เพราะรู้จักและได้ลองรับประทานสาหร่ายเถ้าแก่น้อยตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเมืองไทย เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว สำหรับผมเถ้าแก่น้อยเป็นเหมือนตัวแทนของประเทศไทย ที่ใครๆ มาถึงเมืองไทยก็ต้องรู้จัก เลยกลายเป็นความรู้สึกพิเศษมากทั้งกับเถ้าแก่น้อย และสำหรับตัวผมครับ” ภายในงานยังเป็นครั้งแรกของการเปิดตัว Spot TVC รวมถึงกิจกรรมบนเวที พร้อมเซอร์ไพรส์พิเศษและของที่ระลึกมากมายสำหรับแฟนๆ และกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น สเปเซียลแพคเกจสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยหน้าเซฮุน เฉพาะในงาน ให้เหล่าบรรดาแฟนคลับของ เซฮุน และเถ้าแก่น้อย ได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น และได้พบไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบในเมืองไทย ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่ดี ที่เถ้าแก่น้อยพร้อมที่จะมอบให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่างๆ ได้ทางเฟซบุ๊ค Taokaenoi Club
และเพื่อเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ทางการตลาด “Idol Marketing” พร้อมสร้างความคึกคักเพิ่มเติมให้ตลาดสแน็คทั้งในเมืองไทยและกระจายไปทั่วโลก เถ้าแก่น้อยจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ในแพคเกจจิ้งพิเศษ ที่ถูกดีไซน์ขึ้นเป็นรูป เซฮุน พร้อมวางจำหน่ายที่ประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมนี้ กับ 2 รสชาติ สาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย รสคลาสสิค และ สาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย รสเผ็ด ขนาด 30 กรัม ในราคา 39 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าใกล้บ้าน ทั่วประเทศ
#TaokaenoiXSEHUN2019 #Taokaenoi #ยิ่งแชร์ยิ่งได้ใจ