คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมสร้างโอกาสและผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิกตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน ที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและมีความมุ่งมั่นที่จะนำมวยไทยสู่โอลิมปิก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย โดยในการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ รับหน้าที่ประธานที่ประชุมและได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ทำให้มีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาเข้าสู่โปรแกรมโอลิมปิกเกมส์ได้ในอนาคต ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยได้ให้ความสนใจและเฝ้าสังเกตการดำเนินงานของสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติมาตลอดเวลา ปรากฎ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ และ มร. สเตฟาน ฟ็อกซ์ ในฐานะประธานและเลขาธิการสหพันธ์ IFMA ได้ทำงานอย่างจริงจังตลอดมา แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่า ถึงจะทำงานแบบสุดตัวและทุ่มเทแค่ไหน มีแผนงานที่ดีหรือคิดจนแทบตายก็ไปไม่รอดถ้าไม่มีเงิน เรื่องนี้เป็นปัญหา จึงอยากจะให้การกีฬาแห่งประเทศไทยช่วยแก้ปัญหา รับแผนงานนี้เป็นเป้าหมายและเป็นภารกิจที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการ โดยขอให้กกท.สนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่ จึงจะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ หลังจากนั้น พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ ได้หารือกับผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทยว่า มีแนวทางอย่างไรบ้าง ที่จะใช้เงินจากงบกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมาดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ระเบียบกองทุนมีข้อจำกัดอยู่หลายประการที่ไม่อำนวยให้ดำเนินการได้อย่างคล่องตัว เพราะมีระเบียบกำกับการใช้เงินไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิก 2024 (Paris Olympic Games) จำเป็นจะต้องดำเนินการต่อไป ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ให้ความสำคัญและเห็นชอบในการผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิก ที่ประชุมจึงได้พิจารณาเรื่องงบประมาณจำนวน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาท) ที่จะนำมาดำเนินการ โดย นายสันติภาพ เตชะวนิช ประธานที่ประชุมที่ได้รับมอบหมายจาก พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ (ติดภารกิจออกจากที่ประขุมไปก่อน) ให้เป็นประธานจัดการประชุมต่อ ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นชอบให้นำปัญหาเรื่องงบประมาณจำนวน 40,000,000 บาท เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาต่อไป เพราะแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิก ตามคำสั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ 844/2562 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2562 เป็นนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้การกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการ สำหรับคณะกรรมการส่งเสริมการขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิก 2024 ดังกล่าวประกอบด้วย พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ นายสันติภาพ เตชะวานิช พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และนายสเตฟาน ฟ็อกซ์ เป็นที่ปรึกษา ส่วนประธานคณะกรรมการ ได้แก่ ดร. ก้องศักดิ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และพลเอก รณชัย มัญชุสุนทรกุล ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเป็นรองประธานคณะกรรมการ นอกจากนั้นยังมีผู้ทรงคุณวุฒิอื่นๆ ประกอบด้วย พลเอก อดุลยเดช อินทะพงษ์ พลเอก เหมรัฐ ขำนิล นายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล และนายมีศักดิ์ รัฐกุล เป็นคณะกรรมการ