สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมมือกับมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.)เปิดตัวโครงการ “สื่อมวลชนไทยร่วมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาวะ สร้างสังคมสุขภาวะ”หวังรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ด้านปัจจัยเสี่ยงสุขภาพของสื่อมวลชนไทย ที่คาดว่ามีกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการดำเนินโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยในการลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพร่วมสร้างสังคมสุขภาวะต่อไป
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สสส. มีบทบาทผลักดัน กระตุ้น สนับสนุนและร่วมมือกับภาคีต่างๆใน การขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อให้บรรลุผลในการลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร กระตุ้นให้เกิดการ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม โดยมีหลักการทํางานว่าการสร้างเสริมสุขภาพเป็นเรื่องของทุกคนและทุกองค์กร บทบาทหลักของสสส.คือการสนับสนุนและร่วมมือกับบุคคล กลุ่ม และองค์กรต่างๆในการเป็นภาคีเครือข่ายร่วมสร้างสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นอีกภาคีเครือข่ายหนึ่งที่ สสส.ได้เห็นความสําคัญเพราะเป็นผู้ที่มีบทบาทในการให้ความรู้ รณรงค์ประเด็นปัจจัยเสี่ยงสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนเป็นกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพเช่นเดียวกัน เนื่องจากยังมีสื่อมวลชนจํานวนไม่น้อยที่สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งนําไปสู่ ความเสี่ยงของการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังขาดข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพและปัญหาสุขภาวะของสื่อมวลชนไทยแขนงต่างๆ สสส.จึงได้สนับสนุนมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.)ให้ดำเนินโครงการ “สื่อมวลชนไทยร่วมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ สร้างสังคมสุขภาวะ”ขึ้น
ทางด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ(มสส.) กล่าวว่ามีการประมาณการกันว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนแขนงต่างๆ มีไม่น้อยกว่า 1 แสนคน ทั้งในระดับองค์กร และบุคคล โดนส่วนหนึ่งนั้นมีปัญหาความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทั้งจากบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอื่นๆ แต่ยังไม่มีการศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และ ปัญหาปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพของสื่อมวลชนไทยอย่างเป็นระบบ ทางมสส.โดยการสนับสนุนจาก สสส.ให้ดำเนินโครงการนี้ขึ้น เพื่อรวมข้อมูลสถานการณ์ด้านปัจจัยเสี่ยงสุขภาพของสื่อมวลชนแขนงต่างๆในแต่ละปีว่าเป็นอย่างไร เพื่อนำผลจากการสํารวจไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการดําเนินโครงการ และสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยเพื่อช่วยลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพและสร้างสังคมสุขภาวะในอนาคต โดยมอบหมายสวนดุสิตโพล เป็นผู้สำรวจสถานการณ์ดังกล่าวคาดว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะมีข้อสรุปผลการสำรวจและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป