พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือฟอนซ่า ออกมายอมรับและกระตุ้นสมาคมกีฬาต่างๆที่จะส่งนักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม ว่าเป็นงานหนักสำหรับนักกีฬาทีมชาติไทย เพราะประเทศเวียดนามถือว่าเป็นประเทศเจ้าภาพที่ได้เปรียบในหลายๆด้าน อีกทั้งเป็นประเทศในภูมิภาคอาเชี่ยนที่เป็นคู่แข่งอันสำคัญต่อประเทศไทย หลายชนิดกีฬาเวียดนามพัฒนาขึ้นมามาก
เสธ ยอด กล่าวต่อไปอีกว่า แม้ว่าจะเหลือเวลาอีก ๑ ปีกับอีก ๑๑ เดือน ที่จะถึงกำหนดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ซึ่งประเทศเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพ และเมื่อนับแล้วจะเหลือเวลาให้ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยได้เตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆก็ตาม แต่หลายสมาคมกีฬาก็ต้องเร่งทำแผนเตรียมนักกีฬารวมถึงบุคลากร งบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่แต่ละสมาคมกีฬาได้รับในขณะนี้คือ ค่าจ้างผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติที่ได้รับนั้นน้อยเกินไป
ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลายประเทศมีการพัฒนานักกีฬาตั้งแต่ระดับเยาวชนเพื่อมาทดแทนกัน ซึ่งนักกีฬาทีมชาติไทยก็ต้องมีนักกีฬารุ่นใหม่ๆมาทดแทนนักกีฬาเดิมที่เล่นกีฬามานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องนำงบประมาณโครงการสปอร์ตฮีโร่มาให้สมาคมกีฬาต่างๆเป็นผู้ดำเนินการเอง เพื่อสมาคมกีฬานั้นๆจะได้นักกีฬาเยาวชนตามที่ต้องการมาหมุนเวียนสับเปลี่ยนกับนักกีฬาที่เล่นมานาน การใช้งบประมาณในส่วนนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยถือว่ามีหน้าที่เป็นผู้ให้การสนับสนุน โดยสมาคมกีฬามีหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ จึงจะสอดคล้องกับแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๖
