• ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง “เอ็นริช” กับตัวแทนที่ปรึกษา “คอนมาริ” ระดับมาสเตอร์ ผสานแนวคิดการจัดบ้าน ในสไตล์ “มาริเอะ คอนโดะ” นักจัดระเบียบบ้านชื่อดังระดับโลก
• มาตรฐานต้องมีสำหรับบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรียุคหลังโควิด-19 ตอบรับวิถีปกติใหม่ (New Normal)
- ดีไซน์ Space & Function เพื่อการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) การเรียนรู้รูปแบบใหม่ (Home-based learning) และการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว (Living Experience) พร้อมมาตรฐานใหม่สมาร์ทคิทเช่น
- นวัตกรรมบ้านยุคใหม่ ด้วยระบบไอทีและสมาร์ทโฮม สั่งงานด้วยเสียง จุดเริ่มต้นสังคมไร้สัมผัส (Touchless Society)
- มีเทคโนโลยีควบคุมความสะอาดบริสุทธิ์อากาศขจัดมลพิษ PM.2.5 และใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย Smart Mailbox by Nasket
• ทำเลเด่น เดินทางสะดวกเพียง 15 นาทีจากโครงการถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 เข้าสู่ย่านธุรกิจสาทร-สีลม
• 6-7 มิ.ย. เปิดจองพร้อมชมบ้านบ้านตัวอย่างโมเดิร์นสไตล์ ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 600 ตร.ม. ราคาเริ่ม 29 ล้านบาท
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส “เอ็นริช” นำร่องกำหนดมาตรฐานรับวิถี New Normal ตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี ลุยเปิดตัวโครงการใหม่ทันทีหลังรัฐบาลคลายล็อคเศรษฐกิจ เผยครึ่งปีแรก สถานการณ์โรคระบาดชะลอ กำลังซื้อตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกระบวนทัศน์ใหม่ในการคิดและพัฒนาที่อยู่ อาศัยเพื่อให้สินค้ารองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19
นางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า ตลาดบ้านเดี่ยวยังเป็นตลาดที่มีความต้องการแท้จริงอยู่มากโดยในภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว ซึ่งมีหลายระดับราคา ล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะทำให้กำลังซื้อในตลาดหดตัวฉับพลัน สำหรับตลาดระดับบน ซึ่งเป็นตลาดของ เอ็นริช กลุ่มผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงแต่ชะลอการใช้เงิน และอยู่ในภาวะกังวลกับความไม่แน่นอน กลุ่มบริษัทเอ็นริช ในฐานะผู้ประกอบการ จึงต้องรอเวลาในการเคลื่อนไหวทางธุรกิจ แม้จะมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2562 มีการเจรจาร่วมลงทุนกับต่างประเทศเพื่อร่วมพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2563 แต่เมื่อความไม่แน่นอนกลายเป็นปัจจัย ที่ทำให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนมุมมอง ต้องปรับแผน ปรับวิธีคิดให้สอดรับกับสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยเตรียมความ พร้อมอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีในปีนี้
ล่าสุด กลุ่มบริษัทเอ็นริช ได้เปิดตัวโครงการใหม่ “The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์” ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนมาเป็นระยะเพื่อคลายล็อกเศรษฐกิจ แม้จะเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มมีความเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ภายใต้วิถีปกติใหม่ของสังคมไทย แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำร่องสร้างมาตรฐานสินค้าที่ตอบรับความต้องการของตลาดโดยเปิดตัวสินค้าบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีที่มีกำลังซื้อรออยู่
โครงการใหม่นี้อยู่ในทำเลเขตเมืองชั้นกลาง (Mid Town) ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ตั้งอยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑทลสาย 4 เดินทางสะดวกเพราะใกล้จุดเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองหลายเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางราชพฤกษ์-สาทร ใช้เวลาเพียง 15 เข้าสู่ย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ทั้งใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก (จตุจักร-ฉิมพลี) ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานีร่วมรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ท่าพระ – เตาปูน) และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท-สีลม) และใกล้ที่สุดบนเส้นทางถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 สู่สถานี MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)
“The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์” มีพื้นที่โครงการรวม 23 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ระดับลักซ์ชัวรี 3 ชั้นสไตล์โมเดิร์น จำนวน 65 หลัง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 600 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และเปิดให้เข้าเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างและจองบ้านได้ตั้งแต่ 6 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
นางสาวสุพิชา บอกว่า การตัดสินใจเปิดตัวโครงการใหม่บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสของ ผู้ประกอบการในการนำเสนอมาตรฐานการพัฒนาบ้านเดี่ยวสำหรับตลาดระดับบน เมื่อพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค เปลี่ยนไปจากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้นตลอดทั้งวันนานนับเดือน ทำให้พบว่ารูปแบบและสไตล์ บ้านเดี่ยวของกลุ่มบริษัทเอ็นริช ภายใต้แนวคิด Guiding You to Practical Living ผ่านรายละเอียดของการใช้พื้นที่ และฟังก์ชัน สำหรับทุกคนในครอบครัว ทุกโครงการของเอ็นริชจึงมีความโดดเด่นในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และสอดรับ กับเทรนด์การอยู่อาศัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบทำงานจากที่บ้าน (work from home) การเรียนออนไลน์ของนักเรียนนักศึกษา (Home-based learning) ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่มีความพร้อมของ ระบบไอทีและอินเทอร์เน็ต มีมุมสงบสร้างสมาธิ มีพื้นที่พักผ่อนทำงานอดิเรกที่ชอบวิถีปกติใหม่เช่นนี้ทำให้บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีซึ่งเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ของเอ็นริชได้กำหนดมาตรฐานใหม่ของ การออกแบบบ้านโดยมุ่งเน้นในสองเรื่องสำคัญคือ Space & Function และนวัตกรรมบ้านพร้อมระบบไอทีมาตรฐาน
ตัวอย่างความพิเศษในเรื่อง Space & Function ของโครงการเพื่อตอบรับพฤติกรรมใหม่มาจากการผสาน แนวคิดในการจัดระเบียบข้าวของภายในบ้านด้วยการประยุกต์แนวคิดสไตล์ “คอนมาริ” ของนักจัดบ้านระดับโลก ชาวญี่ปุ่น “มาริเอะ คอนโดะ” มาใช้ในการออกแบบร่วมกับงาน ตกแต่งด้วยความเชื่อในแนวคิดที่ว่าข้าวของเครื่องใช้ ทุกอย่างจะต้องมีที่อยู่ของตัวเองบ้านยุคใหม่จึงต้องเป็นบ้านที่ไม่มีวันรกแม้ว่าข้าวของเครื่องใช้หรือจำนวนสมาชิกใน ครอบครัวจะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
นวัตกรรมบ้านพร้อมระบบไอทีมาตรฐาน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่บ้านเดี่ยวระดับหรูควรมีระบบสมาร์ทโฮม ที่ใช้เสียงสั่งการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน นี่คือการเริ่มต้นสังคมไร้สัมผัส (Touchless Society) นวัตกรรมช่วยลดการสัมผัสสิ่งของในบางพื้นที่ในบ้านโดยใช้ระบบเซ็นเซอร์ เช่น ห้องน้ำ รวมทั้งการควบคุมระบบไฟ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นจากสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังต้องมีเทคโนโลยี ควบคุมอากาศหมุนเวียนภายในบ้านให้สะอาดโดยมีระบบขจัดมลพิษฝุ่น PM.2.5 และระบบกรองน้ำทันสมัย
สำหรับโครงการ The MARQ Exquisite เลือกสรรเทคโนโลยีเพื่ออากาศด้วยนวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่น Panasonic Air Flow และเพื่อเติมเต็มรูปแบบการใช้ชีวิตที่ทันสมัยนวัตกรรมบ้านหรูยุคใหม่ของเอ็นริชจะทำให้ลูกบ้าน และสมาชิกในครอบครัวทุกคนใช้ชีวิตได้สะดวกง่ายขึ้นด้วยระบบ Smart Mailbox by Nasket นวัตกรรมด้าน แอพพลิเคชั่นที่ช่วยลดการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้โดยตรงและเป็นศูนย์รวมการบริการจำเป็นในชีวิตประจำวันไว้ใน แอพเดียวทั้งการบริการดิลิเวอรี และบริการช้อปปิ้งออนไลน์
สำหรับการออกแบบบ้านในโครงการ The MARQ Exquisite เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตัวแทนที่ปรึกษา “คอนมาริ” ระดับมาสเตอร์ และบริษัท สถาปนิกไอดิน จำกัด ซึ่งมีสไตล์การออกแบบงานที่ทันสมัยสวยงามประณีต และมีความเป็นสากล บ้านเดี่ยวของโครงการจึงได้รับการออกแบบเป็นบ้าน 3 ชั้น รูปตัว C ทำให้เกิดความโปร่งโล่ง ของพื้นที่ การตกแต่งเน้นความเรียบแต่หรู จัดวางพื้นที่ให้สะดวกต่อการใช้งาน มีพื้นที่จอดรถกว้างกว่าปกติรองรับการ จอดรถ super car ได้ทุกช่องจอด พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 กับฝ้าเพดานสูง โล่งโปร่ง มองเห็นสวนที่ชั้น 2 และต่อเนื่อง ไปยังชั้นลอยที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ห้องนอนใหญ่ได้โดยตรง ในทุกพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องพักผ่อน ห้องนอน ห้องน้ำ ล้วนได้รับการใส่ใจ อย่างละเอียดประณีตและการจัดระเบียบบ้านโดยคำนึงถึงประโยชน์ การใช้สอยสูงสุดแสดงให้เห็นจุดเด่นของการ ผสมผสานงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดยมีเทคโนโลยีโฮมออโตเมชันและ แนวคิด “คอนมาริ” ที่ทำให้เกิดรูปแบบฟังก์ชัน พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหมาะกับวิถีชีวิตใหม่ภายในบ้าน
ห้องครัว จะเป็นพื้นที่สำคัญของบ้านยุคใหม่ที่ต้องขยายพื้นที่ให้รองรับพฤติกรรมใหม่ ระบบสมาร์ทคิทเช่น จึงเป็นมาตรฐานครัวที่บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีควรต้องมี โดยในโครงการนี้ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับพานาโซนิคซึ่งเป็น ผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคิทเช่น ต้นแบบแนวความคิดแบบญี่ปุ่น (JAPAN SOLUTION) ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการจัดพื้นที่ครัวให้ใหญ่เพียงพอตอบรับการใช้งานของสมาชิกในครอบครัว (Space optimize) ส่งเสริม สุขออนามัยด้วยนวัตกรรมใหม่ด้านวัสดุและพื้นผิวที่ทำให้ครัวสะอาดอยู่เสมอ (Hygienic) และการออกแบบชุดครัว ที่ดูสวยสะอาดตา (clean design) มีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเป็นหมวดหมู่ หยิบง่ายใช้สะดวกเป็นไปตาม แนวคิดการจัดบ้านสไตล์ “คอนมาริ” โดยบ้านทุกหลังจะจัดสรรพื้นที่แยกชัดเจนระหว่างครัวแพนทรีและครัวไทยตอบรับ ความต้องการหลากหลายของสมาชิกในครอบครัว
สำหรับแนวทางการทำตลาดสำหรับโครงการนี้ นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะบริษัทตัวแทนขายโครงการว่า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรียังมีความ ต้องการสินค้าในตลาดสม่ำเสมอเพราะเป็นตลาดของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย อย่างแท้จริง ยิ่งเป็นตลาดเป้าหมาย ในระดับบนซึ่งมีสินค้าในตลาดจำนวนไม่มาก ทั้งยังไม่มีสินค้าคงเหลือในทำเลใกล้เคียงกันในระดับที่น่ากังวลการ แข่งขันในตลาดจึงขึ้นอยู่กับความโดดเด่นของตัวสินค้าว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากแค่ไหน
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเดี่ยวได้รับการจับตามองมากขึ้นจากผู้บริโภคในช่วงเวลาต่อจากนี้ ย่อมมาจาก วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากสถานการณ์โควิด-19 ในมุมของนักการตลาดและการขาย เชื่อว่าสินค้าใหม่ โครงการนี้ตอบ โจทย์ครบทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีความพร้อมในการใช้จ่าย และมีปัจจัย แวดล้อมอื่นๆ ที่ส่งผลให้โครงการมีความน่าสนใจมากขึ้นนอกเหนือจากเรื่องของการดีไซน์สเปซและฟังก์ชั่นยังรวมถึง ทำเลที่เหมาะสมเพราะอยู่ในพื้นที่โซนอยู่อาศัย ที่มีความหนาแน่นไม่มาก การเดินทางสะดวกเพราะสามารถ เข้าถึง จุดเชื่อมต่อสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้หลายจุด สิ่งอำนวยความสะดวกแวดล้อมในทำเลราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ก็มีอย่าง ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนชั้นนำ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และที่สำคัญการเคลื่อนไหวของ ตลาดสินค้าที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนของกลุ่มเอ็นริช จะเป็นการเปิดประเดิมความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการ รายอื่นตามมาในเร็วๆ นี้