การแข่งขันในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของวิทยาลัยดุสิตธานี ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักศึกษาการจัดการโรงแรม โดยเฉพาะอาชีพบาร์เทนเดอร์ และ มิกโซโลจิส ที่เป็นส่วนสำคัญในการนำเสนอเครื่องดื่มที่แสนอร่อย รสชาติดี และเป็นที่ประทับใจของลูกค้า ในธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ที่เป็นกำลังหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ มีสถาบันเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ร่วม 11 สถาบัน 18 ผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงกรรมการตัดสินในระดับ World Class ที่มาช่วยยกระดับการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้นักศึกษาในสถาบันต่าง ๆ ได้รับประสบการณ์และความรู้ การได้เพื่อนใหม่ต่างสถาบัน และคอนเนกชันที่สำคัญในอนาคตข้างหน้า
นายมักซ์ ลา ซาโบคาด นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการท่องเที่ยว การบริการ และกีฬา (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยฮอสปิตอลลิตี้ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน ยังมี นายพันกร ชัยเสริมเทวัญ เป็นเพื่อนร่วมแข่งขัน จากวิทยาลัยฮอสปิตอลลิตี้อีกด้วย
“อันที่จริงแล้ว ผมเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะในการชงเครื่องดื่ม และเป็นคนที่ชอบดื่มอยู่แล้ว ผมเลยได้ไปปรึกษากับผู้ช่วยอาจารย์ปรีชญ เจริญผล ว่าเราควรชงเครื่องดื่มยังไง และขอเทคนิคการชงเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม จนในการแข่งครั้งนี้ ผมได้ลิ้มลองสูตรค็อกเทลเมนูหนึ่ง ที่มาจากมาเลเซีย ชื่อเมนูว่า Jungle Bird จึงนำมาพัฒนาปรับสูตร เล็กน้อย เพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 นี้มา ผมเองรู้สึกดีใจ และภูมิใจในความพยายามของตัวเองอย่างมาก เพราะเป็นรางวัลของความพยายาม และความทุ่มเท ผมมองว่าการพัฒนาตัวเองอยู่สม่ำเสมอนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราเพิ่มสกิล และพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ได้อีกมากมายครับ เพราะฉะนั้น การที่เราพยายามทำอะไรสักอย่าง ที่ต้องใช่ความคิดสร้างสรรค์และความทุ่มเทที่สูง เพื่อคิดค้นหาสูตร และการผสมส่วนผสมต่าง ๆ ให้ลงตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องเปิดใจต่อการลองผสมวัตถุดิบที่แปลกใหม่ และไม่กลัวที่จะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุง จะทำให้เราประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ การเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก ก็เป็นสิ่งสำคัญ มันจะช่วยพัฒนาทักษะและปรับปรุงความรู้ ในการทำค็อกเทลได้เป็นอย่างดีครับ”