![](http://ujunctionnews.com/wp-content/uploads/2024/05/1000025811-1024x683.jpg)
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรมพลศึกษา ได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล (ระดับพื้นฐาน) ภายใต้โครงการ “โค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ” ปี 2567 (ครั้งที่ 4) โดยคัดเลือกโค้ชจำนวน 100 คน โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น ณ ศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา จังหวัดปทุมธานี
![](http://ujunctionnews.com/wp-content/uploads/2024/05/1000025814-1024x682.jpg)
รศ.ดร.แล ดิลกวิทยารัตน์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. ประธานในพิธีเปิดการอบรมฯ ชื่นชมและให้กำลังใจผู้ฝึกสอนที่เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ สานฝันสู่ความเป็นจริง” ครั้งที่ 4 กล่าวว่า “โค้ช” ก็คือ “ครู” ซึ่งมีความใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน มีสามารถถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ทั้งในและนอกตำราให้กับเยาวชนได้โดยตลอด ทางสสส. มีความเป็นห่วง เห็นว่าปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ การพนัน และอุบัติเหตุ ล้วนเป็นสิ่งขัดขวางทำให้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เหล้ามีหลายรูปแบบ บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีแพคเกจที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนการพนันเข้าถึงได้ง่ายในระบบออนไลน์ รวมถึงอุบัติเหตุกลายเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากในแต่ละปี การกีฬาจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นความนิยมที่มีความท้าทาย สามารถสร้างแรงบันดาลใจสู่เป้าหมาย เพราะเยาวชนเป็นกำลังสำคัญของชาติ จึงไม่ควรให้คนเหล่านี้ต้องตกเป็นเหยื่อของอบายมุขเหล่านี้ ควรต้องสร้างให้เยาวชนพ้นไปจากปัจจัยเสี่ยง โค้ช จึงนับว่าเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อแผ่นดิน เป็นผู้ที่ประเทศไทยฝากความหวังไว้ ว่าจะช่วยให้เยาวชนเติบโตมาอย่างมีสุขภาพดีทั้งกายและใจได้สืบไป
นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า จากปัญหาความรุนแรงที่มีนักกีฬาเยาวชนวิ่งไล่ทำร้ายคู่แข่งขันในสนามฟุตบอล กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ในสื่อสังคมออนไลน์ แม้ สคล. จะทำงานเกี่ยวกับงดเหล้า แต่สนับสนุนการกีฬา เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมของสังคม โดยเฉพาะเยาวชน ให้เกิดการตระหนักรู้ ผ่าน“โค้ช” ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับเด็กและเยาวชนมากที่สุด ปัจจุบันที่ธุรกิจแอลกอฮอล์นั้นพยายามแย่งชิงเยาวชนไปอยู่กับฝั่งของตนและกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ในที่สุด หากโค้ชสามารถเป็นทั้งต้นแบบที่ดี สื่อสารสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะไม่ตกไปเป็นเครื่องมือทางการตลาดของธุรกิจแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นการสกัดนักดื่มหน้าใหม่ได้ โดยเฉพาะกับเยาวชนที่ยังอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต สามารถใช้กีฬาช่วยให้ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตผ่านความพ่ายแพ้และได้รับชัยชนะ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวในสนามเท่านั้น เยาวชนที่เล่นกีฬาหลายคนเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีชื่อเสียงได้ ดังนั้น โค้ชจึงควรมองนักกีฬาเยาวชนเป็น “พลเมืองของประเทศ” โดยไม่มองเป็นเพียงนักกีฬาที่จะลงสนามไปคว้าชัยชนะเท่านั้น
![](http://ujunctionnews.com/wp-content/uploads/2024/05/1000025815-1024x575.jpg)
อาจารย์บุญเลิศ เจริญวงศ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลชายทีมชาติเมียนมา และวิทยากรฟุตซอล AFC Level 3 สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย กล่าวว่า 20 ปีที่ผ่านมา กีฬาฟุตซอลนั้นไม่เคยหยุดนิ่งเลย มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล เพื่อผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐาน ครั้งนี้จะได้แนวทางการเล่น หรือเทคนิค การหาข้อมูลต่างๆ ทำให้มีหลายทีมที่โดดเด่นขึ้นมา ทดแทนบางทีมที่ตกลงไป ดังนั้น หากหยุดการเรียนรู้ จะทำให้ตามโลกฟุตซอลไม่ทันอย่างแน่นอน โค้ชจึงต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อให้มีความรู้ที่อัพเดทอยู่เสมอ ก่อนที่จะไปสอนเยาวชน กีฬากับยาเสพติดจะอยู่คงละขั้วกัน หากเสพยา ดื่มเหล้า จะทำให้กำลังวังชาในการเล่นนั้นลดน้อยถอยลง นักกีฬาเยาวชนในภูมิภาคหลายตนไม่มีโอกาสเล่นกีฬา ทำให้ตกไปอยู่ในวังวนของยาเสพติด ที่นับวันจะหาง่ายขึ้นมาก จึงเป็นเรื่องดีที่โค้ชไปช่วยดึงเยาวชนเหล่านั้นขึ้นมาจากก้นบึ้งของอบายมุข และกลายเป็นนักกีฬาที่ถึงแม้บางคนจะไปไม่ถึงความเป้นเลิศทางด้านกีฬา แต่ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้
นายธีรพล สัญญาปลื้ม ผู้เข้าร่วมจากจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ผมทำทีมมาจากศูนย์ ครั้งนี้เป็นการเข้ารับการอบรมครั้งแรก ผมได้ประโยชน์มาก ทั้งหลักการ วิธีการ แนวทางของการเป็นโค้ชที่ดี ด้านคุณธรรมจริยธรรม นักกีฬาทุกคน ตั้งใจเต็มร้อยมุ่งมั่นฝึกฝนที่จะมาแข่งขัน อาจมีความก้าวร้าวรุนแรง กระทบกระทั่งกันบ้างในเกมการแข่งขัน สำหรับผมคิดว่าการแข่งขันมีแพ้ ชนะมีได้เปรียบเสียเปรียบ มักจะส่งผลทางอารมณ์ ซึ่งโค้ชจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีส่งเสริมสุขภาวะ ด้านการดูแลตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข เหล้า-บุหรี่ รวมถึงสอนเด็กๆในเรื่องของการมีสติ มีสมาธิ ควบคุมเกม ควบคุมสถานการณ์ ในสนามแข่ง ใครเป็นผู้มีสติสมาธิมากที่สุด ทีมนั้น นั้นคือผู้ชนะ เมื่อการแข่งขัน SDN FUTSAL No- L CUP “เพื่อนกันมัน โนแอล ไม่ดื่มไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน” รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ ชนะเป็นอันดับที่ 4 ในครั้งต่อไปจะกลับมาสู้อย่างสุดความสามารถ เพราะเป็นรายการเดียวที่ทำให้เด็กรากหญ้า เยาวชนจากภูธร ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมแข่งขัน ผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวี ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมเพื่อเยาวชนทุกคนจริงๆ
![](http://ujunctionnews.com/wp-content/uploads/2024/05/1000025812-1024x683.jpg)
นายกาญนุวัฒน์ อาจภักดี ผู้เข้าร่วมอบรมจากจังหวัดศรีสะเกศ กล่าวว่า ผมได้เคยนำทีมเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ มาได้แค่รอบจังหวัดเท่านั้น แต่การอบรมครั้งนี้ ผมตั้งใจมาเก็บเกี่ยววิชาความรู้ไปเต็มๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้รับ ทั้งคณะผู้จัดที่ดูแลเป็นอย่างดี และทีมอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้แบบไม่กั๊ก ทำให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ ตั้งแต่หลักการ ขั้นตอนและข้อแนะนำต่างๆ จะนำไปใช้ปรับปรุงพัฒนาทักษะในการสอนให้ได้มากที่สุด ปลื้มใจแทนเด็กๆ นักกีฬาเยาวชนที่ห่างไกล เพราะผมเป็นทีมเล็กๆที่อยู่ติดชายแดน จังหวัดศรีสะเกศ เราดูแลกันแบบครอบครัว อยู่ด้วยกันตลอดเวลาพวกเขามุ่งมั่นไม่แพ้ใคร ซึ่งการมาอบรมครั้งนี้ทำให้ผมมั่นใจในการที่จะกลับไป ทำงานเพื่อเด็กๆ ในชนบทที่เขาไม่มีโอกาสทำให้เขามีโอกาส ได้มาสู้กับ ทีมต่างๆต่อไป
/////////////////