ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากการเรียนที่เราจะต้องโฟกัสเป็นอันดับแรกแล้วนั้น ประสบการณ์จากการทำกิจกรรม การใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพราะนี่จะเป็นเพียงช่วงเวลาเดียวนั้นเท่านั้น ที่เราจะได้สนุก และได้รับผิดชอบชีวิตของตัวเองก่อนจะเข้าสู่วัยทำงาน
นายอมรเทพ ฉลาดดี (อแมนด้า) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเรียนจบสายวิทย์ – คณิต โรงเรียนนิยมศิลป์อนุสรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสาขาวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาลัยศิลปศาสตร์ เพราะว่าชื่นชอบการใช้ภาษาอังกฤษ แม้ว่าจะมีช่วงค้นหาตัวตนอยู่พักใหญ่ก็ตาม แต่เมื่อได้ลองเรียนสายวิทย์ – คณิต ก็พบว่า ระดับมหาวิทยาลัยถ้าเราสามารถเลือกเรียนสายวิชาที่เราชื่นชอบ ก็น่าจะต่อยอดไปยังสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ได้
“จากเพชรบูรณ์ สู่มหาวิทยาลัยรังสิต นี่เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ ที่อแมนด้าเลือกเอง หลังกจากเรียนจบ ม.ปลาย ก็อยากลองมาเรียนในกรุงเทพ หรือใกล้ๆ กรุงเทพ อย่างน้อยอยากได้ใช้ชีวิต อยากหาสังคมที่ตอบโจทย์ เอาจริงๆ ที่ ม.รังสิต ถือว่าปัง ตอบโจทย์ในทุกคำถาม อแมนด้าตอบได้ เพราะว่าตอนนี้เรียนปี 3 แล้ว ได้สัมผัสชีวิตนักศึกษา ได้เป็นนักกิจกรรม และมีไลฟ์สไตล์อย่างอิสระได้แบบที่ตัวเองอยากทำ อแมนด้าบอกได้เลยว่าคำว่าสังคมดีๆ ที่ตอบโจทย์ คือที่ ม.รังสิต ยิ่งบรรยากาศในวิทยาลัยศิลปศาสตร์ ที่นี่คือบ้านอีกหลังหนึ่งจริงๆ อาจารย์ รุ่นพี่ เพื่อนๆ ทำไมเหมือนรู้จักกันมาแต่ปางก่อน เราคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถามว่าทำไมเป็นแบบนั้น เพราะว่านอกจากการเรียนหนังสือแล้ว อแมนด้าและเพื่อนๆ ทำกิจกรรมของคณะ และมหาวิทยาลัยด้วย เลยกลายเป็นว่า ถึงเวลาก็ไปเรียน เลิกเรียนก็มาเจอกันที่ห้องเส (ห้องสำหรับนักกิจกรรม) และก็ได้สุมหัวทำกิจกรรมด้วยกัน ตอนที่เข้ามาเรียนชั้นปี 1 อแมนด้าเป็นรุ่นที่สถานการณ์โควิดยังรุนแรง ทำให้ต้องเรียนออนไลน์ กิจกรรมที่ทำก็มีเงื่อนไขมากมาย แต่ก็ไม่สามารถมาเป็นปัญหาได้ เพราะเมื่อได้เจอหน้ากัน เมื่อทุกอย่างกลับมา On-site ทำให้พวกเราทุกคนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกัน และสนิทกันมากขึ้นค่ะ พอขึ้นปี 2 เป็นช่วงเวลาที่เริ่มเป็นสต้าฟทำกิจกรรม ตอนนั้นเราก็เริ่มจากเป็นทีมสันทนาการ ต้องครีเอทกิจกรรมหลายๆ อย่างค่ะ และก็ต้องฝึกซ้อมสันทนาการด้วย เมื่อได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ ทำให้อแมนด้าได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ มากขึ้น ได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคน ทุกวันที่พวกเราใช้เวลาร่วมกัน ก็เพื่อวิทยาลัย เพื่อสิ่งที่พวกเราชื่นชอบ จนกระทั่งปี 3 นี้ เรียกได้ว่าเป็นชั้นปีที่จะต้องเป็นหลักในการคิดกิจกรรม วางแผนงบประมาณ ประสานงานต่างๆ อแมนด้าเองได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนๆ และน้องๆ เลือกให้เราได้เป็นนายกสภานักศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 ใจของเราเองค่อนข้างกลัวในตอนนั้น กลัวจะทำมันออกมาได้ไม่ดี แต่เมื่อมีโอกาสนี่คือช่วงเวลาที่ต้องทำให้ตัวเราเองเชื่อมั่นตัวเราเอง อแมนด้าได้ทำหน้าที่หลากหลาย ทั้งต้องดูแลภาพรวมของทุกฝ่าย การติดต่อประสานงาน การสื่อสารกับผู้คนที่มีความหลากหลาย ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย และอีกมากมาย แต่ทุกอย่างบนโลกใบล้วนมีปัญหา แต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเพราะเราค่อยๆ ฝึกตัวเองให้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่มีอีโก้ในการทำงาน หากเราเปิดใจก็จะสามารถสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันทุกคนในทีมได้ พอมองย้อนกลับไปทำให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เราสามารถพัฒนามาเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้มากๆ”
เรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต อแมนด้าได้เรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาอย่างเต็มที่ เพราะสังคมและบรรยากาศที่นี่ ทุกคนก็ได้แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง มีพื้นที่ระหว่างกันอย่างเหมาะสม
“สังคมที่ดี กลุ่มเพื่อนที่ดี พวกเราคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อนเอกภาษาอังกฤษ เพื่อนห้องเสที่เป็นนักกิจกรรมด้วยกัน อาจารย์ รุ่นพี่ และรุ่นน้อง อแมนด้าได้เห็นการเติบโตของตัวเองของเพื่อน ของน้อง แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยเองก็ตาม ก็เติบโตเปลี่ยนแปลง จึงสามารถพูดได้ว่ามหาวิทยาลัยรังสิตให้อะไรกับอแมนด้าเยอะมากค่ะ ได้เรียน ได้ทำงาน ได้มีทักษะต่างๆ ยิ่งเมื่อได้ทำกิจกรรมของวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัย เราก็ได้รับสิ่งตอบแทนมาทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ที่สำคัญที่สุดความมั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับทุกๆ วัน รู้สึกมั่นใจ และกล้าตัดสินใจมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
สำหรับน้องๆ ที่ยังค้นหา ทำความรู้จักกับตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเราตอบคำถามตัวเองไม่ได้ เพราะบางคำถามต้องใช้ระยะเวลาในการค้นหาคำตอบ หรือเราอาจจะยังคิดอะไรไม่ออก ตอบตัวเองไม่ได้ อแมนด้าก็แนะนำว่าเลือกเรียนภาษาที่คิดว่าชอบก่อนได้ เป็นทางเลือกที่ดีอีกหนึ่งทาง เพราะสุดท้ายภาษาคือพื้นฐานของการสื่อสาร และภาษาสามารถไปต่อยอดอาชีพได้มากมาย