โครงการ 1+2+1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต หลักสูตรนานาชาติด้านการเรียนรู้บริหารธุรกิจ ที่นักศึกษาไทยจะเรียน 1 สายวิชาชีพนั่นคือด้านบริหารธุรกิจ แต่ได้ถึง 2 นักศึกษาจะได้ใช้ภาษาจีนในการเรียน และสามารถสร้างคอนเนคชั่นกับเพื่อนชาวจีนในคลาสเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย นับว่าเป็นการเพิ่มพูนศักยภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านการบริหารจัดการธุรกิจ มุมมองการเรียนรู้เกี่ยวกับการตลาด และเศรษฐกิจของประเทศจีนที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
NYEIN YIN HTWE (Michelle) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเอกชนในประเทศพม่า และตัดสินใจเลือกเรียนที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะอยากเก่งด้านการบริหารธุรกิจ และมีแพลนอยากไปเรียนต่อที่ประเทศจีน
“รู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนที่ ม.รังสิตค่ะ เขาแนะนำหลักสูตรอินเตอร์บริหารธุรกิจให้ได้รู้จัก มิเชลเองมีความชื่นชอบภาษาจีน จึงคิดว่าหลักสูตรที่จะตอบคำถามให้กับตัวเองได้ดีที่สุดจึงเป็นที่นี่ ICC ม.รังสิต กับโครงการ 1+2+1 ค่ะ แน่นอนว่าฉันจะได้ไปเรียนถึง 2 ประเทศ ทั้งประเทศไทยและจีนค่ะ เพราะโครงการ 1+2+1 หมายถึงว่า ปีแรกเรียนวิชาพื้นฐานที่มหาวิทยาลัยรังสิต ปี 2 – 3 เรียนวิชาชีพที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู
และปีสุดท้ายปีที่ 4 เรียนวิชาชีพ ฝึกงานและทำวิทยานิพนธ์ สำหรับมิเชลเอง ได้มีการเตรียมตัว ตั้งใจเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมของวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนเป็นการเก็บชั่วโมงบินด้านภาษา และสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนคนจีน เพื่อจะได้ปรับตัวได้เมื่อต้องไปเรียนที่จีนในปีนี้ค่ะ การเตรียมตัวด้านอื่นๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องก่อนออกเดินทางเราต้องยื่นขอวีซ่า เตรียมสัมภาระตามสภาพอากาศของเมืองที่เราจะไปเรียน จัดเตรียมที่พัก และเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของจีนล่วงหน้า การพำนักระยะยาวในประเทศจีน (สองปี) จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตท้องถิ่นและสภาพแวดล้อมทางสังคม ในปีนี้เราได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการบรรยายเรื่องกฎหมายไทยซึ่งจัดโดย ICC กิจกรรมเหล่านี้ได้ส่งเสริมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมและทักษะการทำงานเป็นทีม มิเชลเชื่อว่าโปรแกรมนี้จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้ระดับนานาชาติที่หลากหลาย และโอกาสเชิงปฏิบัติให้กับเรา และตั้งตารอที่จะพัฒนาทักษะทางวิชาชีพและความสามารถในการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมผ่านโอกาสเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาใน”
นางสาวอภิชญา คนบุญ (เมเจอร์) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเรียนเกี่ยวกับสายวิทย์ – คณิต จบจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา แต่ชื่นชอบเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีน บอกกับที่บ้านของตนทำธุรกิจอยู่ด้วย จึงวางแผนจะเรียนเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการต่อยอดทั้งด้านภาษาของตนเอง และธุรกิจของครอบครัว
“เลือกเรียนโครงการ 1+2+1 นี้เพราะที่บ้านเป็นห่วงค่ะ ถ้าไปอยู่จีนตั้งแต่ชั้นปี 1 เลย ทุกคนก็จะกังวลกลัวหนูอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ โครงการนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องวิชาชีพ ความชอบ และเมื่อต้องไปเรียนต่างประเทศ หากเรามีเพื่อนไปด้วย ก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นอะไรหลายๆ อย่างได้ดีกว่าการไปงมเข็มที่ต่างประเทศคนเดียวค่ะ ที่สำคัญที่วิทยาลัยจะมีการปรับพื้นด้านภาษาจีนให้กับนักศึกษาไทยก่อนด้วยค่ะ เมื่อได้เรียนปรับพื้น ได้ใช้ภาษาจีนสื่อสารกับเพื่อนๆ ในชีวิตประจำวันที่มหาวิทยาลัย 1 ปีต่อจากนี้ ภาษาของเราต้องดีขึ้นแน่ๆ ค่ะ แต่ละวันฟังภาษาจีนเยอะมากๆ ค่ะ เพราะเพื่อนที่ต้องทำโปรเจกต์ด้วยกันก็คนจีน วิชาเรียนก็ต้องเรียนกับอาจารย์คนจีนด้วย ดีมากๆ ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปเรียนต่ออีก 2 ปีที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู นี่คือข้อดีของการเรียนรวมทั้งเด็กไทยและเด็กจีนค่ะ ภาษาก็ได้ใช้ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน เมื่อเราต้องไปเรียนต่อที่จีนในชั้นปีที่ 2 และ 3 ก็จะได้โฟกัสเรื่องการปรับตัวเกี่ยวกับวิชาเรียนได้เต็มที่ค่ะ สำหรับเรื่องอื่นๆ ก็จะไม่น่ากลัวอีกต่อไปค่ะ เพราะเราสื่อสารภาษาได้แล้ว เรียนตำราภาษาจีนก็อ่านได้เยอะแล้วด้วยค่ะ อยากให้ถึงปีหน้าเร็วๆ แล้วค่ะ”
นางสาวอรทัย จัดสร้าง (โม) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า โมจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสตรีอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง สายวิชาศิลป์ภาษาอังกฤษ (IEP) ตัดสินใจเลือกศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติจีน เพราะมีความสนใจด้านการบริหารธุรกิจอยู่แล้วแต่ก็อยากเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วยเลยตัดสินใจเข้าคณะนี้ค่ะ ที่เลือกเป็น ม.รังสิต เพราะว่าที่นี่มีโครงการ 1+2+1
“โมเห็นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการนี้ จึงเริ่มหาข้อมูลค่า รายละเอียดค่อนข้างน่าสนใจมากๆค่ะ เราได้จะเรียนทั้ง 2 ที่ ตามชื่อโครงการเลยค่ะ เรียนที่ ม.รังสิต 2 ปี ชั้นปีที่หนึ่งและชั้นปีที่สี่ ส่วนตอนปี 2 และ ปี 3 จะได้ไปเรียนที่จีนค่ะ จบมาก็รับปริญญา 2 ใบ และใช่ค่ะตอนนี้ก็ผ่านปีแรกมาเรียบร้อยแล้ว ได้เรียนพื้นฐานภาษาจีน เป็นวิชาภาษาจีนเชิงธุรกิจ และก็มีลงเรียนวิชาเอกบ้างแล้วค่ะ จะเป็นวิชาการตลาด วิชาบัญชี การบริหารจัดการต่างๆ และก็ต้องเตรียมตัวไปลงเรียนที่จีนด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากค่ะ หลังจากนี้ก็ต้องเรียนไปด้วยและก็เตรียมตัวเดินทางไปเรียนด้วยค่ะ หลัก ๆ ตอนนี้จะมีเรื่องการยื่นขอวีซ่า และการเตรียมตัวเรื่องของภาษา เพราะว่าเราไม่ได้เรียนจบสายจีนมาโดยตรง ทำให้เราต้องเตรียมตัวหนักกว่าคนอื่นๆ และก็คอยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียน หรือการใช้ชีวิตที่จีน กับเพื่อนคนจีนในคณะด้วยค่ะ ประสบการณ์พวกนี้จะทำให้เรารู้ว่าเราต้องเตรียมตัวยังไงเมื่อไปอยู่ที่จีนเราจะต้องเจอกับอะไร คนจีนเขาจะเรียนกันประมาณไหน ถึงตอนนี้เราอาจจะไม่ได้เข้าใจวัฒนธรรมทั้งหมดของคนจีน แต่สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เรามีความพร้อมในการรับมือกับทุกๆสถานการณ์ค่ะ”