28 ตุลาคม 2567 – Prysmian Group ย้ำบทบาท ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้า สายสื่อสารระดับโลกและผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ สร้างสรรค์นวัตกรรมตอบโจทย์ ล้อตามเทรนด์โลก เพื่อนำพาสังคมและโลกไปสู่ความยั่งยืน โชว์ปี 66 ยอดขายทั่วโลกทะลุ 6 แสนล้านบาท ชี้ปีนี้ตลาดไทยโตกว่า 30% คาดปีหน้าโตอีกเท่าตัว
มร. ฮาม่า ชร้อฟ ประธานกรรมการบริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ (Mr. Hama Shroff, CEO OSEA “Australia, New Zealand and Asian Prysmian” โชว์วิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทพริสเมี่ยน (Prysmian Group) ซึ่งนอกจากการเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานสายไฟฟ้าสายสื่อสารโทรคมนาคมแล้ว ยังมุ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นเทรนด์โลกในปัจจุบัน ขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับทุกๆคนและโลกใบนี้
Prysmian CEO OSEA กล่าวว่า Prysmian Group มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้า สายสื่อสาร มามากกว่า 145 ปี มีความเชี่ยวชาญในสายไฟฟ้า สายสื่อสารทุกประเภททั้งใต้ดินและใต้น้ำข้ามทวีปและระบบสายส่งและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าพิเศษในภาคอุตสาหกรรมที่แตกต่าง รวมถึงสายไฟฟ้าแรงดันปานกลางและแรงดันต่ำสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งเป็นผู้ให้บริการสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และอุปกรณ์เสริมที่ทันสมัยที่สุดในด้านโทรคมนาคม
มีพนักงานเกือบ 30,000 คนในกว่า 50 ประเทศ มีโรงงานกว่า 108 แห่งทั่วโลกรวมถึงในไทยซึ่งตั้งอยู่ที่จ.ระยอง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและจีนในโซนเอเชีย และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D)มากกว่า 26 ศูนย์ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ในปี 2566 ที่ผ่านมา Prysmian Group มียอดขายมากกว่า 16 ล้านยูโรหรือมากกว่า 6 แสนล้านบาท สำหรับยอดขายในไทยมากกว่า 3,000 ล้านบาท ปี 2567 มีการเติบโตมากกว่า 30% คาดปีหน้า 2568 โตอีกเท่าตัว ซึ่งตลาดไทยยังถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพจากโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี
Prysmian Group มีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ และการลงทุนของตัวเอง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นที่ส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่มีความต้องการโซลูชั่นพลังงาน โทรคมนาคม และการส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้น อาทิ ความต้องการใช้พลังงานทดแทน ที่ทำให้ต้องการสายเคเบิลเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับโครงการพลังงานหมุนเวียน, การขยายเครือข่าย 5G และ ดาต้าเซ็นเตอร์,การเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า(EV)และระบบ Grid อัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยดำเนินภายใต้วิสัยทัศน์ของบริษัทที่สร้างการเติบโตไปพร้อม ๆกับการดูแลโลกใบนี้
“กลยุทธ์ความยั่งยืนของเรา คือ “ยั่งยืนเป็นผู้นำ” สร้างขึ้นจากเสาหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1) สิ่งแวดล้อม เราเป็นผู้นำในการลดการปล่อยคาร์บอนเชิงรุก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเรา และพัฒนาโซลูชั่นที่ยั่งยืน 2)การให้ความสำคัญกับประชาชนและชุมชน มีการจัดลำดับความสำคัญของพนักงานและชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจ ด้วยการส่งเสริมความหลากหลาย การไม่แบ่งแยก ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และการมีส่วนร่วมทางสังคม 3)ธรรมาภิบาล รับประกันความโปร่งใสและความรับผิดชอบผ่านการกำกับดูแลที่มีโครงสร้าง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน(ESG) ของบริษัทและ 4) นวัตกรรม การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม”
ผลจากการให้ความสำคัญกับ R&D ช่วยให้เกิดนวัตกรรมรักษ์โลกเด่นๆ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกและได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าเพิ่มมาก อาทิ E-Path กลุ่มผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า, P-Laser Technology เทคโนโลยีสายไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมสามารถรีไซเคิลได้ท้ังหมดและเหนือกว่าในแง่ของความยั่งยืนและประสิทธิภาพ,E3X Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์รีโนเวทสายไฟฟ้าแรงสูง เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดพร้อมเคลือบสายไฟเพื่อยืดอายุการใช้งานออกไปอีกและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงานได้ถึง 15-25% ช่วยลูกค้าลดของเสียและนวัตกรรมเครื่องมือ (Alesea) สำหรับช่วยตรวจสอบสายไฟที่อยู่ในล้อสายไฟได้ ที่สามารถบอกสถานะของสายไฟ เช่น มีความยาวเหลือในล้ออีกเท่าไร ล้อสายไฟตั้งอยู่ที่ใด ง่ายต่อการค้นหา เป็นต้น
ภาพรวมการดำเนินธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง คาดว่าจะช่วยหนุน Prysmian Group เติบโตเป็นเจ้าตลาดสายไฟฟ้า สายสื่อสารของโลกไปอีกยาวนาน ซึ่งในปี 2568 เตรียมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 146 ปี คาดว่าจะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการ