มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์วิจัยสร้างอัตลักษณ์และยกระดับมาตรฐานบริการสปาศรีวิชัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล และยกระดับยกระดับมาตรฐานการบริการสปาในพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ลภัส พงศกรรังศิลป์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวฯ ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์ และทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัย ร่วมกันดำเนินการวิจัยภายใต้แผนวิจัย“การสร้างอัตลักษณ์และยกระดับมาตรฐานการบริการสปาศรีวิชัย” ในพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในตลาดสากลต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ลภัส กล่าวต่อไปอีกว่า แผนการวิจัยดังกล่าวดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งเน้นการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โครงการวิจัยย่อยทั้ง 5 ประกอบด้วย การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สปาจากสมุนไพรพื้นบ้าน การพัฒนาและประเมินประโยชน์ต่อสุขภาพของผลิตภัณฑ์สมุนไพร การพัฒนามาตรฐานสปาศรีวิชัย การพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานการบริการสปาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และการพัฒนาอัตลักษณ์และแบรนด์สปาศรีวิชัย โดยผลการวิจัย 6 เดือนได้มีการพัฒนานวัตกรรมสมุนไพรพื้นบ้านบนฐานภูมิปัญญาในรูปแบบของ อีมัลเจล 3 สูตร ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว อีมัลเจล (Coconut oil Emulgel) กับ น้ำมันไพล อีมัลเจล (Plai oil Emulgel) และอีมัลเจลมะพร้าวกับไพล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สปาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนวดคู่กับน้ำมันนวด ซึ่งได้พัฒนาขึ้นสำหรับสปาศรีวิชัยจำนวน 5 สูตร รวมทั้งการพัฒนาเอกลักษณ์การนวดศรีวิชัย-ไพยสันตา ตลอดจนพัฒนา welcome drink จากกล้วย การพัฒนาแนวคิดในการออกแบบ (Conceptual Design) เพื่อให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้ดำเนินการพัฒนาศูนย์เรียนรู้พืชสมุนไพรเพื่อผลิตภัณฑ์สปา และการพัฒนาพื้นที่จัดจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสถานบริการกับกระทรวงสาธารณสุข การฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริการและการขึ้นทะเบียนหมอนวดฟรีแลนซ์ ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการ สำหรับการพัฒนาเอกลักษณ์การนวดศรีวิชัย-ไพยสันตา นั้นอาศัยการนวดตะวันตก ซึ่งใช้เทคนิคการลูบ (Effleurage or Gliding) การกด (Petrissage or Kneading) การถู (Friction) การเคาะ (Tapotement or Percussion) และการสั่น (Vibration or Shaking) ร่วมกับการนวดไทย ที่เน้นเส้นประธานสิบ ผสมผสานมาเป็นท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบศรีวิชัย ที่ประยุกต์จากการถอดท่ารำมโนราห์ ระบำศรีวิชัยและท่าฤาษีดัดตน แล้วนำมาคัดเลือกท่าที่จะช่วยในการคลายกล้ามเนื้อของผู้ใช้บริการสปาบริเวณที่พบว่ามีปัญหาบ่อย ให้ผลดีทั้งทางสรีรวิทยาและทางจิตใจจากการนวด
“ทีมวิจัยพบว่าอำเภอขนอมมีฐานทรัพยากรสมุนไพร หมอยาพื้นบ้าน วิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ผนวกกับความโดดเด่นของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลที่สงบ ผ่อนคลาย แต่ในส่วนของธุรกิจสปาของขนอมยังไม่มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ทางทีมนักวิจัยจึงพยายามที่จะสร้างอัตลักษณ์สปาศรีวิชัยขึ้น โดยได้นำผลการวิเคราะห์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ศรีวิชัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญมากำหนดอัตลักษณ์และแบรนด์สปาศรีวิชัย ออกแบบตราสัญลักษณ์ รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ผู้ประกอบธุรกิจสปา รวมทั้งวิสาหกิจชุมชนขนอม ซึ่งแผนงานวิจัยนี้มุ่งยกระดับมาตรฐานทั้งด้านการบริการและการส่งเสริมสุขภาพ ภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรอง พร้อมทั้งมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ศรีวิชัยผสมผสานอยู่ในสปา อันจะนำไปสู่การยอมรับจากผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สปาศรีวิชัย มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในตลาดสากลต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ลภัส กล่าว