นาย ธานัท จารุฤทธิไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด เปิดเผยผลประกอบการในปีแรก ยอดทะลุ 300 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้กับบริษัท Ultima Life ถึงแม้ว่าประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 เจอปัญหาหนักหน่วงกับการแพร่ระบาดขั้นรุนแรงของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและอยู่รอดในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะขาลงเช่นนี้ มีหลายธุรกิจที่ชะลอตัว และอีกหลายธุรกิจที่ต้องปิดกิจการอย่างน่าใจหาย เพราะผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยและต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ที่ผ่านมาเป็นยุคของการ Work from home ส่งผลให้พฤติกรรมของทุกคนเปลี่ยนไป ทั่วโลกเริ่มเข้าสู่ยุค New Normal แต่สิ่งที่โตสวนทางคือตลาดสุขภาพ เพราะผู้คนหันมาดูแลตัวเองกันเพิ่มขึ้น ตลาดสุขภาพด้านการป้องกันโรคหรืออาหารเสริมจึงเติบโตสวนกระแสอย่างต่อเนื่อง
จากวิสัยทัศน์ และแผนการตลาด พลิกวิกฤต COVID-19 ให้เป็นโอกาส
ในช่วง COVID-19 แม้ว่าปัจจุบันหลายธุรกิจ ยังคงไม่ฟื้นตัว หรืออาจจะยังทรงตัวหลังคลายล็อกดาวน์ แต่ไม่ใช่กับบริษัท Ultima Life ที่บริหารงานโดย คุณธานัท จารุฤทธิไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ที่ยอดขายพุ่งทะยาน สวนกระแส COVID-19 หลังจากที่เปิดทำธุรกิจช่วงกลางปี 2562 – กลางปี 2563 ยังเจอกับวิกฤติโรคระบาดอีกด้วย แต่ “ Ultima Life” ก็ทำยอดขายสูงถึง 300 ล้านบาท คุณธานัท กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผลประกอบการในปีแรกเติบโตได้ดี เนื่องจากธุรกิจอาหารเสริมส่งสัญญาณการเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เป็นตัวแปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น
คุณธานัท ได้กล่าวว่า ที่บริษัทของเราเติบโต เพราะเราได้มีการเตรียมการล่วงหน้าในเรื่องแพลตฟอร์มออนไลน์ และทางบริษัทฯ เองเตรียมพร้อมเรื่องการบริหารจัดการเรื่องความเสี่ยงต่าง ๆ ไว้อยู่แล้ว อีกทั้งสินค้าของบริษัทฯ ก็เป็นสินค้าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เมื่อมีวิกฤตโรคระบาดเกิดขึ้น หลาย ๆ คนก็หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย จากเทรนด์การดูแลสุขภาพในช่วง COVID-19 ดันให้ยอดขายของบริษัท Ultima Life ทะลุ 300 ล้านบาท แม้เริ่มทำธุรกิจนี้มาได้เพียง 1 ปีเท่านั้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันตลาดการดูแลสุขภาพยังคงโตอย่างต่อเนื่อง
“ย้อนไปก่อนที่จะมีวิกฤตโรคระบาด COVID-19 เพราะเราเชื่อมั่นว่า การทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์จะมาแน่นอน พอมีวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ก็เหมือนเป็นตัวเร่งให้การทำออนไลน์ต้องเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ บริษัท Ultima Life ได้มีการดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว มันเลยทำให้บริษัทของเราสามารถเดินหน้าต่อได้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ยอดขายของ Ultima Life โตไว ใน 1 ปีแรก ทั้งที่หลายคนกล่าวว่า ปีแรกของการทำธุรกิจยากที่สุด แต่บริษัทของเราทำยอดขายได้ถึง 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ”
พัฒนาแผนธุรกิจต่อไป ไม่มีหยุด ผสมผสานเทรนด์สุขภาพกับเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน
ส่วนในอนาคต คุณธานัท ก็ยังไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยให้สมาชิกทำงานได้ง่ายมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน และที่สำคัญเราจะพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มอีกด้วย
“เราจะมีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การทำธุรกิจนั้นง่าย มีทางเลือกในการทำธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเราใช้บริษัท BIG DATA รองรับข้อมูลแพลตฟอร์มในส่วนนี้อยู่ด้วย ในจุดนี้บริษัท BIG DATA มีหน้าที่ในการพัฒนา วิจัยและสกัดข้อมูลออกมา เพื่อให้ก่อประโยชน์สูงสุดในการทำธุรกิจ พร้อมซัพพอร์ตสมาชิกของ Ultima Life ด้วย ตั้งเป้าไว้อยากให้สมาชิก Work From Home ได้จริง ๆ ทางเราก็มีการผลักดันเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกและเป็นจุดขายใหม่ในธุรกิจ และในอนาคตจะมีการนำแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ และเราก็มีบริษัท BIG DATA มาช่วยรองรับและวิเคราะห์ข้อมูลในจุดนี้”
การบริหารแบบผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ จุดแข็งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
เหตุผลที่บริษัท Ultima Life มีความแตกต่างกับธุรกิจเดียวกันในตลาด นอกจากจะเป็นบริษัทที่ตอบสนองกับยุคสมัยและเข้ากับประสบการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จุดแข็งของเราคือเรื่องของเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อรูปแบบของธุรกิจนี้โดยเฉพาะ เรามองถึงอนาคตที่จะมาถึง จากตัวเลขการเติบโตที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่าออนไลน์มาแรงมาก และเราจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นกับอีกหลาย Platform ที่เตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆนี้
นายธานัท กล่าวตอกย้ำถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ควบรวมเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน ในโลกที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สำคัญ เรามองไปข้างหน้า วิเคราะห์และเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ตอบสนองคนในยุคปัจจุบัน เราพร้อมปฏิวัติทุกวงการ ของเทคโนโลยี แห่งการสร้างรายได้ เพื่อนำเสนอการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เรียกได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับการทำธุรกิจได้อย่างลงตัว นับว่าเป็นอีกหนึ่งแผนบริหารธุรกิจที่น่าจับตามองจริง ๆ