สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) จัดงานเปิดตัว“หนังสือ WiTThai เล่ม 3 เรียนรู้อย่างรีแล็กซ์ผ่านบทสนทนากับนักวิจัยไทย และ WiTThai เล่ม 4 เรียนรู้อย่างรีแล็กซ์ผ่านบทสนทนากับนักวิจัยไทย” หนังสือที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับองค์ความรู้มากมายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมแง่คิดเกี่ยวกับการทำงาน การใช้ชีวิตของนักวิจัยไทย ตลอดจนการอุทิศตนของนักวิจัยไทยที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค โดยนำหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจมาเล่าด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย อ่านสนุกเพลิดเพลิน เรียบเรียงโดยแทนไท ประเสริฐกุล นักสื่อสารวิทยาศาสตร์คนดังของเมืองไทย งานจัดขึ้นภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
คุณแทนไท ประเสริฐกุล ผู้เรียบเรียงหนังสือ WiTThai เล่ม 3 – 4 กล่าวว่า “ระยะเวลาผ่านมาจะมีสักกี่คนที่รู้ว่า นักวิจัยไทยเขาวิจัยอะไรกันบ้าง ประเทศเราจริงๆ แล้วมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งรุ่นใหม่รุ่นใหญ่ที่อุทิศตนหาคำตอบให้กับคำถามสำคัญ ๆ อยู่มากมายเต็มไปหมด แต่น่าเสียดายที่คนนอกแวดวงไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสความรู้ ความคิด และประสบการณ์ของพวกเขา”
“เมื่อใดที่ผู้อ่านได้อ่านหนังสือสองเล่มนี้ จะเข้าใจว่าวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่วาดภาพไว้ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปสำรวจความน่าสนใจของงานวิจัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยผ่านภาษาสนทนาที่เข้าใจง่าย เล่าไปหัวเราะไป แล้วคุณจะเริ่มสังเกตว่างานวิจัยที่น่าตื่นเต้นติดตามนั้นมีอยู่รอบตัว สำหรับหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจภายในเล่ม อาทิ งานวิจัยเรื่องโลกของผึ้ง โรคกลายพันธุ์หายาก เก็บขี้ช้างที่กลางไพร อาณาจักรที่ถูกลืม ปริศนาโลงไม้แห่งถ้ำผีแมน ฯลฯ จะทำให้ผู้อ่านได้รับองค์ความรู้ในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อนควบคู่กับความสนุก หนังสือเล่มนี้จะทำให้คนทั่วประเทศได้รับรู้เกี่ยวกับวงการวิจัยที่มี สกสว. สนับสนุนอยู่เบื้องหลังตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา และจะได้ร่วมเห็นถึงความสำคัญและความน่าตื่นเต้นของวงการวิจัยไทยไปด้วยกัน”
ด้าน คุณลินินา พุทธิธาร ผู้เรียบเรียงหนังสือ WiTThai เล่ม 2 กล่าวว่า ตนมีพื้นฐานมาจากสายวัฒนธรรม เป็นตัวแทนของคนที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์ที่คอยซักถามเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ ให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย คือคนที่มีความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างมากและพยายามค้นคว้าเพื่อมาบอกต่อ แต่การบอกต่อผู้คนทั่วไปจะต้องมีผู้สื่อสารวิทยาศาสตร์ที่จะมาเป็นผู้ถ่ายทอด เพื่อเป็นสะพานเชื่อมและกระตุ้นให้นักวิจัยได้เล่าผลงานวิจัยในมุมมองของวิชาการในแบบของตัวเอง พร้อมกับให้คนทั่วไปที่เคยมองว่างานวิชาการหรืองานวิจัยขึ้นหิ้ง แต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และจับต้องได้
“หนังสือ WiTThai 3-4 ไม่ใช่หนังสือที่อ่านแล้วซีเรียส เป็นงานวิจัยที่ย่อยมาแล้วอ่านง่าย นอกจากความสุนทรีย์ที่จะได้รับ ยังเสมือนได้เปิดตัวตนของเราให้มีมิติในจุดต่างๆ ที่กว้างขึ้น เป็นการเติมเต็มขุมสมบัติประเภทหนึ่งที่จะกล่อมตัวเราเองให้มีความกลมกล่อมและความลุ่มลึกมากขึ้นในบางด้าน ไม่ได้จำกัดอยู่ในโลกแคบของตัวเองเพียงคนเดียว ผู้อ่านจะได้เข้าใจว่ายังมีเรื่องราวอีกมากมายที่มีความต่างและคล้ายกับตัวเรา หนังสือเล่มนี้เสมือนเราได้เข้าไปร่วมวงสนทนากับนักวิจัยด้วย ซึ่งภายในปี 2563 นี้พวกเราจะมีหนังสืออีกเล่มภายใต้การสนับสนุนของ สกสว. ที่จะตามมาเร็ว ๆ นี้ คือหนังสือ “เพราะมีเรา ฉันจึงเป็น” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกระบวนการทำงานกับชุมชน ประสบการณ์การทำงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ควบคู่กัน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณ สกสว. ที่ทำให้ตนได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์มากขึ้นจากการทำงานนี้ ได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งของนักวิจัยแต่ละท่านว่าเป็นอย่างไร และข้อคิดมากมายในการใช้ชีวิต การทำงานของนักวิจัยที่สามารถทำทุกอย่างให้ลงตัวเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ และทำให้หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์และสร้างคุณค่าให้กับผู้อ่านอย่างมาก”
ผู้สนใจสามารถหาซื้อหนังสือ WiTThai เล่ม 3 และ เล่ม 4 ได้ที่ บูธ สกสว. L05 ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 หรือสั่งซื้อได้ทางเฟซบุ๊กเพจ “ร้านหนังสือ สกสว.” (https://www.facebook.com/booktsri) จำหน่ายในราคาเล่มละ 295 บาท
