มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ได้ทำการคัดเลือกรางวัลพ่อตัวอย่างประจำปี 2564 นักศึกษาทั้ง 12 คณะ โดยมีพ่อตัวอย่างเข้ารับโล่จาก รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี จำนวน 15 ท่าน 1 ใน 15 ท่าน คือ คุณพ่อทินกร มีทอง คุณพ่อของนักศึกษาพิการทางการเคลื่อนไหว นายอดิศักดิ์ มีทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ คุณพ่อตัวอย่างวัย 74 ปี ที่ทำเพื่อลูก ที่ทุ่มเท ทั้งกายและใจ รักที่บริสุทธิ์ โดยไม่ได้หวังอะไรตอนแทนพระคุณ
คุณพ่อทินกร มีทอง เล่าว่า เมื่อตอน 4 ขวบ ลูกชายได้วิ่งล้มขาหัก คุณหมอได้ทำการรักษาและตรวจพบว่าลูกชายเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คุณหมอบอกว่าเกิดจากยีนส์ด้อยทางพันธุ์กรรมของพ่อแม่ โรคนี้จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงเรื่อย ๆ โดยน้องได้ใช้ชีวิตสามารถเดิน วิ่งได้ตามปกติ จนกระทั่งช่วง ปวช. ขาทั้งสองข้างไม่มีแรง น้องต้องใช้ไม้ค้ำช่วยเดิน แต่เมื่อเข้ามาเรียนที่ มทร.ธัญบุรี ขาของน้องไม่มีแรงและเดินไม่ได้ เพื่อให้ลูกได้ใช้ชีวิตปกติ สามารถเรียนในสาขาที่อยากเรียน ไปไหนมาไหนเหมือนคนทั่วไป จึงอยากทำเพื่อลูก ไม่อยากให้ลูกคิดว่าเป็นภาระใคร มาอยู่กับลูกที่มหาวิทยาลัย โดยอยู่ที่หอพักนักศึกษา เช้าของทุกวัน “อุ้มลูกชายออกจากหอ ขึ้นมอเตอร์ไซด์เพื่อไปส่งลูกเข้าเรียน ถ้าตึกไหนสามารถใช้วิวแชร์ได้ น้องจะนั่งวิวแชร์และขึ้นตึกไปเรียน แต่ถ้าไม่สามารถใช้วิวแชร์ได้ จะอุ้มน้องขึ้นตึก เพื่อให้น้องได้เข้าเรียน” ระหว่างที่อยู่หอคอยเตรียมอาหาร ซักผ้าให้กับลูก เมื่อหมดคาบเรียน คอยไปรับลูกไปเรียนอีกตึก ถ้าไม่มีเรียนรีบกลับมาที่หอ เลือกใช้มอเตอร์ไซด์เพราะว่าสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย
ทางด้าน “น้องโปเต้” นายอดิศักดิ์ มีทอง เล่าว่า “ชอบเล่นเกมส์ อยากสร้างเกมส์ และเขียนโปรแกรม” หลังจากจบ ปวส.สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาชัยนาท ได้รับโควตาจากทาง มทร.ธัญบุรี เข้าศึกษาที่นี่ เมื่อเข้ามาเรียน ขาทั้งสองเริ่มไม่มีแรง ไม่สามารถเดินได้ ต้องนั่งวิวแชร์ คุณพ่อต้องมาอยู่ด้วยที่หอพักมหาวิทยาลัย คอยช่วยเหลือ ไปรับไปส่งเรียน คอยอุ้มขึ้นอาคารเรียน (บางอาคารเรียนที่ไม่สามารถใช้วิวแชร์ได้) 3 ปี ที่พ่อต้องมาดูแลที่มหาวิทยาลัย จนกระทั่งเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายของภาคการศึกษา ขอบคุณคุณพ่อที่ได้ดูแลตนเอง อุ้มขึ้นอาคารเรียน อีกไม่กี่เดือนจะสำเร็จการศึกษา หลังเรียนจบจากหางานหาเงินมาตอบแทนพระคุณท่านต่อไป
“ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้มาดูแลลูกที่มหาวิทยาลัย ภูมิใจในตัวของลูก ที่ตั้งใจเรียน ถึงแม้ว่าจะได้เกรดเฉลี่ยที่สูง ลูกชายเป็นคนที่มีความพยายาม ใฝ่หาความรู้ “เมื่อมองเปรียบเทียบกับลูกเรากับคนอื่น สงสารลูกชาย แต่พ่อคนนี้จะดูแลลูกให้ดีที่สุด และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยได้เป็นคุณพ่ออย่าง