อาจารย์เทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต รับรางวัลโล่พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในโอกาสสนับสนุนช่วยเหลือกิจกรรมการบริจาคโลหิต โรงพยาบาลศิริราช ต่อเนื่องกว่า 10 ปี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อังสนา โยธินารักษ์ อาจารย์ประจำคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า กิจกรรมบริจาคโลหิตได้จัดอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี โดยมีแนวคิดมาจากที่คณะเทคนิคการแพทย์มีการเรียนการสอนทางด้านการบริจาคโลหิตใน 2 วิชา คือ วิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต 1 ของนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 3 และ วิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต 2 ของนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 4 เมื่อมีการเรียนการสอนในเรื่องการบริจาคโลหิต จึงได้คุยกับทีมงานว่าทำอย่างไรจึงจะให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จริงและประสบการณ์ตรง เราจึงได้บูรณาการระหว่างการเรียนการสอนกับการบริจาคโลหิต โดยการใช้ชั่วโมงของการเรียนการสอนในชั่วโมงปฏิบัติการจริง ให้นักศึกษาได้มีการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยความร่วมมือกับคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต และภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งทางศิริราชพยาบาลได้จัดหน่วยเคลื่อนที่มารับบริจาคโลหิตที่มหาวิทยาลัยรังสิตโดยตรง
“เราได้ดำเนินการด้านกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ปีละ 2 ครั้ง ในรายวิชาดังกล่าว การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องนี้ ได้รับความร่วมมือด้วยดีเสมอมาจากคณะกายภาพบำบัดฯ ม.รังสิต และศิริราชพยาบาล โดยในแต่ละครั้งได้รับการบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมากตามยอดของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน ซึ่งสามารถนำโลหิตนี้ไปช่วยผู้ป่วยที่ศิริราชพยาบาลได้จริง การดำเนินงานนี้จึงทำให้ศิริราชพยาบาลเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างคุณประโยชน์ทั้งการช่วยชีวิตผู้ป่วย และนักศึกษาได้รับประสบการณ์จริง รวมถึงบูรณาการจัดการเรียนการสอนด้วย ทางศิริราชพยาบาลจึงเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลโล่พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่เราทำอย่างต่อเนื่องทุกปี และจะทำไปเรื่อย ๆ ด้วยนักศึกษาที่ยังมีการลงทะเบียนเรียนอยู่ และผู้ป่วยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้โลหิต ซึ่งโลหิตแต่ละถุงสามารถไปแยกเป็นส่วนประกอบของโลหิตชนิดต่างๆ ได้ สามารถช่วยผู้ป่วยโรคต่างๆ ได้จริง จึงคิดว่าจะจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในนามของคณะเทคนิคการแพทย์ โดยร่วมมือกับคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต และภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ไปเรื่อย ๆ โดยที่ผ่านมาได้มีการประเมินกิจกรรมนี้เพื่อจะนำจุดดี และจุดที่ควรพัฒนา ปรับปรุง ให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้อาจารย์อังสนา ยังได้พูดถึงความประทับใจในการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตด้วยว่า ส่วนตัวอาจารย์และทีมงานรู้สึกว่าได้โลหิตที่จะไปช่วยชีวิตผู้ป่วยจริง ทุกครั้งที่เสร็จกิจกรรมพอเราทราบว่าได้ยอดบริจาคโลหิตแต่ละครั้งประมาณเกือบร้อยกว่ายูนิต ที่ศิริราชพยาบาลได้นำกลับไปที่โรงพยาบาล เป็นความภาคภูมิในของทีมงานเป็นอย่างมากว่ากิจกรรมดังกล่าว มีคุณประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้ป่วย ต่อตัวนักศึกษา และบุคลากรที่เราได้ทำบุญร่วมกัน