
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตต่อเนื่อง “ฉายแสง แอด.เวนเจอร์” ผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ขยายพอร์ตโฟลิโอ ด้วยการเปิดยูนิตใหม่ จับมือพาร์ทเนอร์ “The Ghost Radio” หนึ่งในรายการสยองขวัญยอดนิยมที่มีกระแสตอบรับที่ดี ร่วมต่อยอดสู่ธุรกิจภาพยนตร์ สร้างมิติใหม่ให้วงการภาพยนตร์สยองขวัญเปิดตัวโปรเจกต์แรกภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร ด้วยการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ เพื่อยกระดับวงการภาพยนตร์ไทย และให้คอหนังได้สัมผัสประสบการณ์ภาพยนตร์ที่สนุกๆ มากขึ้น

นายชัยวัฒน์ มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.ฉายแสง แอด. เวนเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ เป็นบริษัทที่ทำการตลาดและจัดจำหน่ายให้กับภาพยนตร์ไทยจากค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์มเป็นหลัก แต่เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของรายได้ในประเทศและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการคอนเทนต์ไทยในตลาดโลก โดยมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาท และอีกหลายเรื่องสามารถทะลุ 100 ล้านบาทได้สำเร็จ โดยเฉพาะภาพยนตร์แนวสยองขวัญ (Horror) และ แนวคอมเมดี้ (Comedy) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย
จากการสำรวจแนวโน้มและศักยภาพตลาดภาพยนตร์สยองขวัญสำหรับคอหนังในประเทศไทย พบว่าภาพยนตร์สยองขวัญเป็นแนวที่อยู่คู่กับผู้ชมชาวไทยมาอย่างยาวนาน และยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง เห็นได้จากภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงในประเทศ เช่น สัปเหร่อ และธี่หยด ซึ่งล้วนมีองค์ประกอบของความสยองขวัญอยู่ในเนื้อหา สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของคอหนังที่ยังคงให้ความสนใจภาพยนตร์แนวนี้ จากแนวโน้มตลาดที่ชัดเจน อีกทั้งภาพยนตร์สยองขวัญยังแข็งแกร่งในตลาดอาเซียนด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ อิทธิพลของภาพยนตร์สยองขวัญจากอินโดนีเซียที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าภาพยนตร์สยองขวัญยังคงเป็นแนวที่ได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมองว่าภายใน 2-4 ปีข้างหน้า ตลาดภาพยนตร์สยองขวัญยังคงมีศักยภาพสูง จึงมองว่าการสร้างสรรค์ภาพยนตร์สยองขวัญเป็นโอกาสที่สำคัญ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ชมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย อย่างไรก็ตาม การสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การตอบสนองกระแสความนิยมเท่านั้น แต่พยายามมองหาความแปลกใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลาย และมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

ดังนั้น “ฉายแสง แอด.เวนเจอร์” จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างสรรค์โปรเจกต์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัท นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจขยายบทบาทจากผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายสู่การเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ การร่วมมือกับ “Ghost Radio” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเล่าเรื่องผีอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีฐานผู้ฟังเหนียวแน่น และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานความสำเร็จที่มีอยู่แล้ว การจับมือกันครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโปรเจกต์ภาพยนตร์และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มั่นใจในการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง “บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด” และ “The Ghost Radio” ในการจัดตั้ง “Ghost Light”เกิดขึ้นจากการพูดคุยเพื่อหารือด้านธุรกิจและคอนเทนต์ร่วมกันมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า การร่วมมือกัน ควรอยู่ในรูปแบบที่มีโครงสร้างชัดเจน จึงนำไปสู่การจัดตั้งยูนิตใหม่นี้ขึ้นมา ภายใต้ชื่อ “Ghost Light” ซึ่งเป็นการผสานระหว่าง “บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด” และ “The Ghost Radio”
“เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของ “The Ghost Radio” ในฐานะ Hub Community เรื่องผีอันดับ 1 ของประเทศไทย ซึ่งมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวสยองขวัญ นอกจากนี้ โปรเจกต์ “Ghost Light” ยังได้รวมตัวกับผู้กำกับที่มีความสามารถในวงการภาพยนตร์ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพที่น่าจับตามองต่อไป และผมมั่นใจว่า “Ghost Light” จะกลายเป็น Business Unit ที่แข็งแกร่ง และสามารถผลิตภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างแน่นอน” นายชัยวัฒน์ กล่าว

สำหรับการเปิดตัวโปรเจกต์ของ “Ghost Light” คือ ภาพยนตร์เรื่องแรก “ข้างบ้าน” จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ใช่เพียงแค่ความนิยมของเรื่องเล่าเท่านั้น แม้บางเรื่องจะมีกระแสแรง ยอดวิวถล่มทลาย หรือได้รับความนิยมสูงสุด แต่เป็นเพียง ช่วงสั้นๆ ที่ไม่สามารถขยายเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจได้ ก็อาจไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างเป็นภาพยนตร์ ดังนั้นจึงได้ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาจากองค์ประกอบสำคัญ เพื่อให้ “ข้างบ้าน” เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนวัฒนธรรมและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขวาง ได้แก่ 1.) ความ Related กับผู้ชม เรื่องราวที่เข้าถึงและทำให้ผู้คนรู้สึกมีส่วนร่วมได้ 2.) ความสนุกและน่าติดตาม สามารถเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมได้ และ 3.) แนวคิดที่เป็นสากล (Universal Message) มีประเด็นที่สามารถสื่อสารไปยังตลาดต่างประเทศได้
กลุ่มเป้าหมายหลักของภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” มุ่งเน้นไปที่ผู้ชมชาวไทยเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะกลุ่ม Young Generation ได้แก่ Gen Z และ Gen Y เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เนื่องจากเป็นผู้ชมที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การดูหนังในโรง และยังคงให้ความสนใจกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เนื่องจาก “ข้างบ้าน” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นร่วมกับ “The Ghost Radio” จึงมีความโดดเด่นทั้งในด้านภาพ เสียง และบรรยากาศที่ออกแบบมา เพื่อการรับชมในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ อีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ แฟนรายการ “The Ghost Radio” ซึ่งมีฐานผู้ติดตามที่เหนียวแน่น และให้ความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับความลี้ลับและสยองขวัญ กลุ่มนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มหลักที่คาดว่าจะให้การสนับสนุนภาพยนตร์ “ข้างบ้าน”เป็นอย่างดี
ความคาดหวังสำหรับภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” อาจไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องรายได้เป็นหลัก เพราะเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัด แต่สิ่งสำคัญคือ ความตั้งใจและทุ่มเทของ “Ghost Light” ทำให้ภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” มีคุณภาพ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกผิดหวังกับการถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบภาพยนตร์ โดยเฉพาะแฟน ๆ “The Ghost Radio” ที่คุ้นเคยกับเรื่องเล่าต้นฉบับ เพื่อตอบแทนการรอคอยของแฟนๆ ทั้งจาก “The Ghost Radio” รวมทั้งผู้ติดตามผลงานของ ผู้กำกับภาพยนตร์ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” และคอหนังสยองขวัญชาวไทย
ในปีนี้ ฉายแสง แอด. เวนเจอร์ จำกัด มีแนวทางขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายให้กับผู้ชม โดยเริ่มต้นจากโปรเจกต์แรก “Ghost Light” ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ ”The Ghost Radio” ในการสร้างภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” กำกับการแสดงโดย ก้องเกียรติ โขมศิริ ส่วนโปรเจกต์ที่สอง เพิ่งมีการเปิดตัวไปในงานแถลงข่าว คือ Food Track รัก (ลัก) หมูเด้ง ภาพยนตร์คอมเมดี้ครอบครัวที่ถูกออกแบบให้เข้าถึงทุกเพศทุกวัย พร้อมมอบความสนุกและความประทับใจให้กับผู้ชม ที่นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, แจ๊ส ชวนชื่น, หม่ำ จ๊กมก และ แจ็ก แฟนฉัน และโปรเจกต์ที่สาม เป็นการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของพี่อี๊ด โปงลาง โดยมี Working Title โปรเจกต์ว่า “ ผีน้อย” ที่นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่าง “ผีน้อย” กับ “ตำรวจเกาหลี” เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่า ผสมคอมเมดี้นิดๆที่จะถ่ายทำในประเทศเกาหลี ด้วยบรรยากาศและโลเคชั่น สวยงาม คาดว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ของ พี่อี๊ด โปงลาง และแฟนหนังไทยอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2-3 โปรเจกต์ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะมีการประกาศไลน์อัพอย่างเป็นทางการในอนาคต และที่ขาดไม่ได้คือความร่วมมือกับ “เนรมิตหนัง ฟิล์ม” ซึ่งจะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ตื่นเต้นกันตลอดทั้งปี ถือเป็นพันธมิตรหลักที่สำคัญของบริษัท ฉายแสง แอด. เวนเจอร์ ในการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตต่อไป