คินเซนทริค บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลชั้นนำของโลก มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ทั้ง Ai, Robot และ Digital Platform โดยยึด “คน” เป็นศูนย์กลางของการ Transformation เพราะทุกคนคือคุณค่าขององค์กร ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2565 (Kincentric Best Employer Thailand 2022) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 22 ในประเทศไทย เผยภาพรวมและคุณค่าที่ได้รับจากการเข้าร่วมการประกวดสุดยอดองค์กรนายจ้างดีเด่น ประจำประเทศไทย ปี 2565
กรุงเทพมหานครฯ – มีนาคม บริษัท คินเซนทริคและสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศความร่วมมือ การประกวดสุดยอดองค์กรนายจ้างดีเด่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ซึ่งครอบคลุม 14 ประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลาง รวมถึงมีการจัดประกวดโครงการดังกล่าวทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ แอฟริกาใต้สะฮารา ในปีนี้ทางบริษัทได้มีการจัดประกวดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 22 โดย คินเซนทริค เป็นผู้นำธุรกิจระดับโลกในเรื่องการให้คำปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ เป็นสถาบันการศึกษาระดับสากลในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญในสาขาบริหารธุรกิจ และบริหารทรัพยากรบุคคล
โดยมี ดร. อดิศักดิ์ จันทรประภาเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท คินเซนทริคประเทศไทย กล่าวเปิดงานและนำเสนอผลสำรวจจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารของหลายองค์กร และข้อมูลเชิงลึกด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในโลก ที่ต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว (Agility) จากการประกวดสุดยอดองค์กรนายจ้างดีเด่น ในปี 2564 พบว่า หลายองค์กรได้ออกแบบ Business Model ใหม่ ๆ ให้สามารถแข่งขันในธุรกิจได้ มีการจัดสรรกำลังคนที่เหมาะสม และเน้นนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้เพื่อลดช่องว่างและประสานความร่วมมือระหว่างสายงาน ทั้งนี้ โดยรวมสามารถสร้างความผูกพันกับพนักงานถือว่าทำได้ดีมาก มีการสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงาน และการสร้างวัฒนธรรมในองค์กร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญรวมถึงการลงทุนในการสร้างการเรียนรู้และสร้างการเติบโต
นอกจากนี้ สิ่งที่พบในองค์กรที่เป็น The Best Employers มี 5 แนวทางในการปฏิบัติที่ดี ประกอบด้วย 1.การสื่อสารที่โปร่งใสเพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจตรงกัน 2.องค์กรมีการพัฒนาและหาประสบการณ์ความเป็นเลิศ 3.องค์กรพยายามมองหายุทธศาสตร์เพื่อปรับตัว 4. Flexible Workplace เพื่อตอบโจทย์ Hybrid Workplace และ 5. วางแผนอัตรากำลังคนทั้งระยะกลางและระยะยาว
สำหรับเทรนด์การบริหารทรัพยากรบุคคลในปี 2565 มี 9 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ 1.การดูแลการบริหารจัดการคนเก่ง 2. การกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อคัดกรองคนเก่งให้เข้าทำงาน 3.ทบทวนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ 4.หลายองค์กรเริ่มลดช่องว่างและประสานความร่วมมือระหว่างสายงาน และให้ผู้บริหารเข้ามามีส่วนร่วมกับพนักงาน เพื่อขับเคลื่อนผลิตผลให้มากขึ้น 5.หาเทคโนโลยีมาจัดการเพื่อรับฟังพนักงานให้มากขึ้น 6.วางแผนผู้สืบทอดตำแหน่งให้ลึกขึ้น 7.วางแผนเส้นทางอาชีพรองรับโอกาสการเติบโตของพนักงาน 8.ลงทุน Diversity Equity และ Inclusion และ 9.เพิ่มส่วนงาน HR โดยใช้เทคโนโลยีในการ Transform
ภายในงานเปิดตัวโครงการ ได้รับเกียรติจาก Prof. Dr. Ian Fenwick ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกล่าวเปิดงาน และเล่าให้ฟังถึงการสร้างสมดุลย์ในการปรับตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลากับการพัฒนาองค์กร ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ทั้งยังเต็มอิ่มไปกับการอภิปรายหมู่ถึงแนวทาง “การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน” ที่จะเปลี่ยนโลกการทำงาน (The Future of Employee eXperience) โดยมีคุณมลฑนา พรปัญญาเลิศ รองผู้อำนวยการด้านบริหารสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.ชัยพงษ์ พงษ์พานิช รองผู้อำนวยการ ด้านวิชาการ และ คุณเอย่า เสวนสัน ที่ปรึกษาอาวุโสและผู้จัดการสายงานด้านการประเมินและพัฒนาผู้นำองค์กร บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแบ่งปันเคล็ดลับ
ดร.ชัยพงษ์ พงษ์พานิช รองผู้อำนวยการ ด้านวิชาการ คินเซนทริคประเทศไทย กล่าวในเวทีอภิปรายว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงยืดเยื้อและยาวนาน เสมือนเป็นสนามทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคน จากที่ไม่เคยใช้โปรแกรมประชุมออนไลน์ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ เพื่อให้องค์กรทำงานต่อไปได้ ขณะเดียวกัน Mindset ของคนเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งส่งผลต่อวัฒนธรรมองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ทำให้องค์กรจะใช้วิธีการเดิม ๆ มาบริหารจัดการคนคงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว โดยจะต้องมีกลไกในการทำงานบนโลกออนไลน์ที่แตกต่างกว่าเดิม เช่น เรื่องของ Metaverse สำหรับการทำงานในอนาคต
คุณเอย่า เสวนสัน ที่ปรึกษาอาวุโสและผู้จัดการสายงานด้านการประเมินและพัฒนาผู้นำองค์กร คินเซนทริคประเทศไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด -19 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีการลาออกของพนักงานจำนวนมาก หลายคนจากที่เคยเป็นนายจ้างต้องมาเป็นลูกจ้างแทน ขณะที่บางองค์กรไม่มีการจ้างพนักงานมาทดแทนใหม่ อย่างไรก็ตามในโลกของการทำงานในปัจจุบันที่ความคิดของคนเปลี่ยนไป ทำให้องค์กรต้องตั้งคำถามถึงคุณค่าและความสำคัญของคนทำงานว่ามีคุณภาพชีวิตเป็นอย่างไร เช่น การมีเวลาให้กับครอบครัว มีเวลาในการทำสิ่งที่ชอบ
โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น บางคนสามารถหารายได้จาก E- Commerce หรือแม้แต่การเล่นเกมเพื่อหารายได้ การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มาเติมเต็มความสุข และปัจจุบันดูเหมือนว่าพนักงานจะถือไผ่ที่เหนือกว่า เพราะหลายคนเหนื่อยล้ามาร่วม 2 ปี อาจจะทบทวนตัวเองใหม่ ทำให้ผู้บริหารองค์กรต้องปรับตัวเพื่อสรรหาคนใหม่มาทดแทน หรือไม่อาจจะต้องมีความยืดหยุ่น หากพนักงานไม่กลับมาทำงาน เช่น อาจจะให้มีการทำงานที่บ้านต่อไปเพื่อเป็นทางเลือก เพราะมีประสิทธิภาพเหมือนกัน
นอกจากนี้ คุณนลิน เตชะสกุลสิน ที่ปรึกษา คินเซนทริคประเทศไทยยังร่วมการอภิปราย ภายใต้หัวข้อ “Employee eXperience in the Changing World” โดยเล่าถึงความสำคัญของ Employee eXperience ความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างประสบการณ์ของพนักงานและความผูกพันกับองค์กร การปรับตัวขององค์กรและคนทำงานผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเป็นการแชร์ประสบการณ์จริงจากองค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่น 3 องค์กร ได้แก่ คุณอภิรักษ์ วาราชนนท์ Chief People Officer – People Support Center, Major Cineplex Group Plc. (องค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2561), คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ Head of People Group and Acting Digital Transformation ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา (องค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2564), คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ Chief People and Brand & Communications Officer, Krungthai-AXA Life Insurance PCL (องค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2563-2564) ร่วมเสวนาในประเด็นของการปรับตัวของธุรกิจให้อยู่รอดในยุค New Normal ความแตกต่างของการดูแล
รวมทั้ง ความผูกพันพนักงานระหว่างยุคก่อนการระบาดของโควิด-19 กับยุคปัจจุบัน วิธีการปรับองค์กรเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงาน (Employee eXperience) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้แนวคิดถึงการเตรียมตัวและสิ่งที่ได้รับจากการได้รับรางวัลองค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นจากการประกวดสุดยอดองค์กรนายจ้างดีเด่นในปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มองค์กรที่ได้เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น มีคะแนนความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรร้อยละ 87 โดยเฉลี่ย ซึ่งมากกว่าองค์กรทั่วไปที่มีผลคะแนนความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรอยู่ที่ร้อยละ 70 โดยเฉลี่ย ซึ่งองค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นมีการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงานในมิติต่าง ๆ ที่เป็นเลิศกว่าองค์กรทั่วไป ทั้งในมิติด้านความคล่องตัวขององค์กร (Agility) มิติด้านผู้นำองค์กร (Engaging Leader) และมิติด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Talent Focus)
คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ Chief People and Brand & Communications Officer, Krungthai-AXA Life Insurance PCL กล่าวว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 บางองค์กรต้องปิดตัวแต่ทางกรุงศรีมองว่าคนยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้กับองค์กร โดยสิ่งแรกเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกของพนักงาน ให้เขามีความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งการจัดหาโรงพยาบาลและการจัดหาวัคซีน รวมทั้งให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ กำหนดให้เป็นนโยบาย Smart Working คนไหนที่เครื่องมือไม่พอ เรามีการจัดหาคอมพิวเตอร์ไปติดตั้งที่บ้านของพนักงาน เพื่อให้ทำงานได้ทันที หรือแม้แต่ระบบ Call Center เพื่อให้พนักงาน Work from home 100 % รวมทั้ง เรื่องของการตรวจสุขภาพของพนักงานประจำปี ให้มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เช่น การทดสอบพฤติกรรมการนอน การรับประทานอาหารของพนักงาน เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างครอบครัวและตัวพนักงาน การปรับเปลี่ยนดังกล่าว ทำให้กรุงไทยมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ Head of People Group and Acting Digital Transformation ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ธุรกิจช้อปปิ้งเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่ตอบโจทย์ลูกค้าแล้วในปัจจุบัน เรามองเห็นเทรนด์นี้มาแล้วหลายปี และได้ปรับตัวตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว โดยวางธุรกิจตัวเองเป็น Center of Live ให้บริการทั้งท่องเที่ยว โรงแรม และศูนย์ประชุม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 เรามองเห็นพลังของคนในประเทศที่ร่วมกันเพื่อให้ประเทศอยู่รอด แต่เป็นพลังในทางลบ การขับเคลื่อนองค์กรในปัจจุบัน ก็ต้องมาคิดใหม่ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนอยากกลับมาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน หรือคู่ค้า และร้านค้าที่เคยอยู่กับเรา เป้าหมายทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน
ทั้งนี้เพราะ เทรนด์หนึ่งที่เรามองเห็นคือ คนไม่ต้องการทำงานหาเงินอย่างเดียว มุมหนึ่งชีวิตคนทำงานต้องมีความสมดุล จึงต้องมีกลไกความร่วมมือและการเป็นพันธมิตร ร้านค้าที่อยู่ในห้างสามารถที่จะรับข้อมูลข่าวสารโดยตรง จากผู้บริหาร ห้างเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับคนในองค์กรมีการเปิดโอกาสได้สอบถาม และปัจจุบันทางเซ็นทรัลมีการพัฒนา Connect Live เพื่อสื่อสารกับพนักงาน ในสัดส่วน 50-60% ถือว่ามีส่วนทำให้วัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก
คุณอภิรักษ์ วาราชนนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากโรงหนังเป็นธุรกิจแรกที่โดนปิดกิจการยาวถึง 6 เดือน และเป็นธุรกิจที่อยู่ในอันดับสุดท้ายที่รัฐบาลให้เปิดกิจการ ด้วยผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ต้องดำเนินการหลายอย่างทั้งเรื่องของการบริหารต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย บริหารสภาพคล่อง, จัดการคน และมองหาช่องทางใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นนำข้าวโพดคั่ว (Popcorn) ขึ้นไปขายบนออนไลน์ ทั้งบนลาซาด้าและ Shopee และช่องทางโมเดิร์น
เทรด ทำให้เริ่มมีรายได้เข้ามา รวมทั้งการจัดตั้งค่ายหนังของตัวเอง โดยตั้งเป้าผลิตภาพยนต์ปีละ 20 เรื่อง เพราะหนังฮอลลีวูดถูกเลือนตารางหมด เมเจอร์ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้อนาคตเพราะมิเช่นนั้นเมเจอร์จะถูกดิสทรัปชั่นไปด้วย
คุณปอลิน ปอแก้ว ผู้จัดการโครงการประกวดสุดยอดองค์กรนายจ้างดีเด่น ประจำปี 2565 ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดว่า การประกวดสุดยอดนายจ้างดีเด่น เป็นการสำรวจผ่านเครื่องมือและกระบวนการสำรวจมาตรฐานของคินเซนทริคที่ใช้เหมือนกันทุกบริษัทที่เข้าร่วมโครงการทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึกจากองค์กรผ่าน 3 แหล่งข้อมูล คือ 1) การสำรวจความคิดเห็นของพนักงานผ่าน 4 มิติหลัก ได้แก่ ความผูกพันของพนักงาน (Employee Opinion Survey) ความคล่องตัวขององค์กร (Agility) ผู้นำองค์กร (Engaging Leader) และการบริหารทรัพยากรบุคคล (Talent Focus) 2) การประเมินประสิทธิภาพของงานทรัพยากรบุคคลผ่านเครื่องมือ People Practices Index โดยใช้ Maturity Model และ 3) การสำรวจมุมมองของผู้บริหารสูงสุดขององค์กรด้านกลยุทธ์องค์กร รวมถึงกลยุทธ์และแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อขับเคลื่อนองค์กร
สำหรับการสมัครเข้าร่วมโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2565 องค์กรที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2565 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 โดยจะมีการเก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 นี้
โดยในปีที่ผ่านมา มีทั้งหมด 14 องค์กรสุดยอดนายจ้างที่ได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2564 ได้แก่
- บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป
- บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด
- บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท ไฮเวย์ จำกัด (บริษัทในกลุ่มทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป)
- บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด
- บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
- การไฟฟ้านครหลวง
- บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไทย อีทอกซีเลท จำกัด
- บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด
- บริษัท เดอะวัน เซ็นทรัล จำกัด
- บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)